'แกรนด์ แอสเสท' วอนรัฐเร่งรัดฉีดวัคซีน ดันเศรษฐกิจและท่องเที่ยวฟื้นตัว

'แกรนด์ แอสเสท' วอนรัฐเร่งรัดฉีดวัคซีน ดันเศรษฐกิจและท่องเที่ยวฟื้นตัว

“แกรนด์ แอสเสท” เผยธุรกิจถุงมือยางคืบหน้า มีออเดอร์ต่างประเทศเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจโรงแรมยังน่ากังวล หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มทะลุหลักพันต่อเนื่อง วอนรัฐบาลเร่งรัดจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงราคาไม่แพงให้เพียงพอ

นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคืบหน้าของธุรกิจผลิตและส่งออกถุงมือยางที่บริษัทได้เข้าร่วมทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตหลังแรกซึ่งคืบหน้าไปอย่างมาก กำหนดจะแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้ โดยบริษัทยังมีออเดอร์จากต่าง ประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก

นับเป็นการปรับตัวทางธุรกิจเพื่อรับกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัท ขณะที่ธุรกิจโรงแรมของบริษัทซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังนั้น ล่าสุดมีความกังวลหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทะลุหลักพันรายต่อวันต่อเนื่องเป็นเวลาเกินครึ่งเดือนแล้ว

“สถานการณ์ของภาคธุรกิจในขณะนี้ ฝากความหวังไว้กับความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งการฉีดวัคซีนที่เพียงพอและรวดเร็วเท่านั้นที่จะลดจำนวนและควบคุมการแพร่ระบาดได้ นอกจากนี้ ยังมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย โดยบริษัทมีการร่วมทุนกับต่างประเทศทั้งญี่ปุ่นและสิงคโปร์ซึ่งต้องการที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย ต่างก็มองถึงความพร้อมในการฉีดวัคซีนได้ในสัดส่วนที่เหมาะสมของประเทศไทยเป็นสำคัญ ในขณะที่เรายังมีความล่าช้าและยังมีจำนวนไม่เพียงพอ โดยขณะนี้ไทยมีการจัดหาวัคซีนครอบคลุมเพียง 45% ของจำนวนประชากร มองว่าหากภาครัฐมีการฉีดวัคซีนล่าช้าจะส่งผลอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลายแสนล้านบาท รัฐบาลจึงควรมีการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เร่งรัดการจัดซื้อและอนุญาตนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงราคาไม่แพงให้เพียงพอ รวมทั้งเร่งรัดระยะเวลาในการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นด้วย”

นายวิทวัส กล่าวด้วยว่า ภาคการท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวเนื่องกับการจ้างงานสูงถึงกว่า 4 ล้านคน โดยการว่างงานจะเป็นปัญหาระยะยาวต่อเศรษฐกิจของประเทศ การฉีดวัคซีนได้มากและเร็ว จะช่วยให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ดูตัวอย่างจากประเทศอิสราเอลที่ควบคุมการแพร่ระบาดดีขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือน เพราะประชากรได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 100% ทำให้ผู้ป่วยใหม่ลดลงรวดเร็ว สามารถยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยได้

หรือออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรค สามารถเดินทางระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัวในรูปแบบทราเวล บับเบิลได้แล้ว และพบว่ามีการจองเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงฮ่องกงและสิงคโปร์ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างกันในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งประเทศไทยควรเร่งดำเนินการในเรื่องวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจ และทำให้สามารถเปิดเดินทางระหว่างประเทศได้เช่นกัน