Sideways Down (30 เม.ย.64)

Sideways Down (30 เม.ย.64)

เก็งกำไร ROJNA ILINK SGF

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวรับ 1580 / 1570 จุด แนวต้าน 1600 / 1605 จุด แนะนำ เก็งกำไร ROJNA ILINK SGF สัญญาณทางเทคนิคยังคงเป็นบวก แต่การเริ่มเข้าเขต Overbought Area ทำให้มีโอกาสที่ดัชนีฯ อาจเกิดการปรับฐานระยะสั้น ปัจจัยลบ คือ แรงขายทำกำไรก่อนเทศกาลหยุดยาว และยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ที่เร่งขึ้น จากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่ง อาจส่งผลต่อความผันผวนในระยะสั้น ส่วนปัจจัยบวก คือ จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ใหม่เริ่มชะลอตัวลง และผลกำไรบจ. ไทยส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มอิงสินค้าโภคภัณฑ์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ 1. รายงาน 1Q21E GDP Growth ของประเทศสมาชิกอียู 2. รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน เม.ย. ของจีน 3. รายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ คาดเร่งขึ้นในเดือน ม.ค.

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

       - สหรัฐฯ รายงาน 1Q21 GDP เติบโตสูงถึง 6.4% และคาดปีนี้อาจเติบโตสูงถึง 7% (Vs ปัจจุบันคาดเติบโต +6.3%)

       - จับตา 1Q21E GDP Growth ของประเทศสมาชิกยุโรป และรายงานภาคการผลิตและบริการเดือน เม.ย. ของจีน (เป็นบวกต่อหุ้น Cyclical Plays และ Commodity Plays หากออกมาดีกว่าคาดการณ์)

       - จับตาผลกำไรบจ. ไทย DTAC INTUCH GLOBAL

       - สศค./CIMBT ปรับลด 2021E GDP ไทย เป็น 2.2%/2.3% (Vs เดิม 2.8%/2.6%) จากผลกระทบ COVID-19 รอบสาม และอาจเกิด Technical Recession ใน 2Q21E

       - Ex-Dividend วันนี้มีผลต่อดัชนีฯ -0.48 จุด นำโดย TCAP SC ROJNA PRM

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

Earnings: Barclays, Exxon, Chevron / China-สำนักสถิติแห่งชาติรายงาน PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน เม.ย. คาด 51.7/56.5 (Vs เดือน มี.ค. 51.9/56.3) / 1Q21E GDP Growth ของประเทศกลุ่มสมาชิกอียู EU คาด -0.8% QoQ (Vs 4Q20 -0.7% QoQ), Germany คาด -1.5% QoQ (Vs 4Q20 +0.3% QoQ), Italy คาด -0.5% QoQ (Vs 4Q20 -1.9% QoQ), France คาด +0.1% QoQ (Vs 4Q20 -1.4% QoQ) / USA-Core PCE Price Index เดือน มี.ค. คาด +1.8% YoY (Vs เดือน ก.พ. +1.4% YoY), Chicago PMI เดือน เม.ย. คาด 65.3 (Vs เดือน มี.ค. 66.3) / ไทย-ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน มี.ค. คาด -USD0.6bn (Vs เดือน ก.พ. -USD1.07bn), ยอดค้าปลีกเดือน ก.พ. คาด -6% YoY (Vs เดือน ม.ค. -8% YoY)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยขึ้นแรงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขายกรอบ 1583.98-1592.90 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1590.46 จุด +13.67 จุด +0.87% วอลุ่ม 8.96 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง +2.89% บรรจุภัณฑ์ +2.42% พลังงานและสาธารณูปโภค +1.68% หุ้นบวก >4% PROEN IRPC BFIT UPA ROJNA WHA VL COTTO TKS SCCC SAMART PRIME DEMCO ACG ILINK SCM SGF RML GENCO IP หุ้นลบ >4% TSTH CCP SAM TH INOX PRECHA ICN AIE IMH

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJ +0.71% (+239.98 จุด) S&P500 +0.68% Nasdaq +0.22% หลังจากรายงาน 1Q21 GDP เติบโตสูงถึง 6.4% QoQ สูงสุดเป็นอันดับสอง นับตั้งแต่ 3Q20 และคาดปีนี้อาจเติบโตสูงขึ้นถึง 7% แต่ตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ DAX -0.90% CAC -0.07% FTSE -0.03% หลังจากยิลด์พันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองปิดลบ: น้ำมันดิบโลกปิดบวกเป็นวันที่สาม WTI +USD1.15 ปิดที่ USD65.01/บาร์เรล Brent +USD1.29 ปิดที่ USD68.56/บาร์เรล จากคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐฯ รายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ส่วนราคาทองคำโลกปิดลบต่อเป็นวันที่สาม -USD5.60 ปิดที่ USD1,768.30/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐฯ รายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ประเด็นสำคัญ

+ ศบค.: จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ลดลงเป็น +1,871 ราย (Vs วันก่อนหน้า +2,012 ราย) ส่วนศบค. ชุดใหญ่มีมติ 1. ปรับระยะเวลากักตัวเป็น 14 วัน 2. ปรับโซนสีใหม่ 3. ปรับเกณฑ์ควบคุมตามสีใหม่ โดยไม่มีการล็อกดาวน์แต่อย่างใด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.

+ USA: รายงาน 1Q21 GDP +6.4% QoQ (Vs 4Q21 +4.3% QoQ) เติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ 3Q20 และคาดปีนี้อาจเติบโตสูงถึง +7% (Vs ปัจจุบันอยู่ที่ 6.3%)

- USA: เงินเฟ้อเร่งขึ้น PCE Price Index 1Q21 +3.5% QoQ (Vs 4Q20 +1.5% QoQ) และ Core PCE Price 1Q21 +2.3% QoQ (Vs 4Q20 +1.3% QoQ) ส่งผลยิลด์พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีขึ้นไป สูงสุดที่ 1.686% และปิดที่ 1.648% สูงสุดรอบ 10 วัน

+ SCC: เตรียมแผน spin off ธุรกิจเคมีก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ปี 2022

- เศรษฐกิจไทย: สศค. ปรับลดประมาณการ 2021E GDP เป็น 2.3% จากเดิม 2.8% เนื่องจากคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 2 ล้านราย

+ การเปิดประเทศ: AAV คาดการเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศจะสามารถดาเนินการได้ในระหว่าง 1Q22-2Q22

- USA: ประธานาธิบดีไบเดน แถลงต่อสภาคองเกรสของสหรัฐ ว่าจะทำให้การถดถอยกลายเป็นความเข้มแข็ง และให้บริษัทเอกชนและชาวอเมริกันที่ร่ำรวยเข้ามาร่วมแบกภาระด้านการเงินของประเทศมากขึ้น อาทิ การจัดเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคลในอัตราสูงสุดที่ 39.6%, การจัดเก็บภาษีกำไรจากการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SCGP GLOBAL IMH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ROJNA ILINK SGF

Derivatives: ถือสถานะ Long S50M21 ที่เปิดไว้ทุน 957-958 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)