โบรกฯ จ่อเพิ่มเป้ากำไรบจ.ปี 64 โตทะลุ 8 แสนล้าน

โบรกฯ จ่อเพิ่มเป้ากำไรบจ.ปี 64 โตทะลุ 8 แสนล้าน

“บล.เอเซีย พลัส” เตรียมเพิ่มเป้ากำไรบจ.ปี 64 คาดทะลุ 8 แสนล้าน จากเดิม 7.96 แสนล้าน หลังกลุ่มแบงก์-บิ๊กแคป งบโตดีเกินคาด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 4.6 พันล้าน ฟาก “บล.บัวหลวง” คาดกำไรบจ.โค้งแรกพุ่ง 83%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2564 โดยคาดว่าจะมากกว่า 8 แสนล้านบาท จากประมาณการเดิมที่ 7.96 แสนล้านบาท เนื่องจาก บริษัทที่ประกาศกำไรแล้วในไตรมาส1ปี 2564 เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นขนาดใหญ่ ่ออกมาดีกว่าฝ่ายวิจัยและนักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์

ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารที่ฝ่ายวิจัยจัดทำประมาณการครอบคลุม 8 บริษัท (ไม่รวม บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) และ บมจ.ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 45% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเติบโต 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ประมาณ 43%

ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) กำไรสุทธิ 2.1 พันล้านบาท เติบโต 44% เทียบกับไตรมาสก่อน และเติบโต 23% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือดีกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 25%, บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 85% เทียบกับไตรมาสก่อน และเติบโต 114% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือดีกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 29% และ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กำไรสุทธิ 1.15 หมื่นล้านบาท เติบโต 356% เทียบกับไตรมาสก่อน และ 34% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ ดีกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 28%

สำหรับภาวะตลาดหุ้นในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา (28-29 เม.ย.2564) ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน สาเหตุหลักมาจากการรายงานกำไรบจ.ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศที่มีความชัดเจนขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ปรับลงต่ำกว่า 2,000 รายต่อวัน จากจุดสูงสุดที่ 2.8 พันรายต่อวัน

นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย โดยมียอดซื้อสะสมประมาณ 4.6 พันล้านบาท (26-29 เม.ย.) และคาดว่ามีโอกาสซื้อต่อเนื่องหากภาครัฐสามารถคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ที่มีแนวโน้มอ่อนค่า

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า กำไรบจ.ไตรมาสแรกมีโอกาสเติบโตประมาณ 83% และไตรมาส 2 ปี 2564 มีโอกาสเติบโตประมาณ 71% ซึ่งจะส่งผลให้กำไรช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้มีโอกาสเติบโตประมาณ 77% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานกำไรในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำ

ประกอบกับภาครัฐไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์ประเทศเหมือนปี 2563 มีเพียงมาตรการคุมเข้มบางกิจการเพื่อป้องโควิด-19 เท่านั้น โดย บล.บัวหลวง คงคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2564 ที่ 83 บาท และคงเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 1,605 จุด