กำไรบจ.โดยรวมออกมาดี ขณะที่เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดการผ่อนคลาย

กำไรบจ.โดยรวมออกมาดี ขณะที่เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดการผ่อนคลาย

เฟดคงดอกเบี้ยตามคาดและยังไม่มีการพูดถึงการลด QE

โดยยังคงเน้นย้ำว่าเฟดต้องการเห็นเงินเฟ้อและการจ้างงานปรับขึ้นสู่ระดับเป้าหมายก่อนปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตร ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจและการจ้างงานมีความแข็งแกร่งจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนและการสนับสนุนด้านนโยบาย ซึ่งถือว่าภาพรวมเป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่การรายงานผลประกอบการบจ.ขนาดใหญ่ออกมาค่อนข้างดี รวมถึงมีการประกาศซื้อหุ้นคืนขนาดใหญ่ของ Apple ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวก อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรติดตามการแถลงต่อสภาคองเกรสของไบเดนในโอกาสครบรอบการทำงาน 100 วัน ซึ่งคาดจะมีการพูถึงมาตรการด้านสาธารณสุขเพิ่มเติม 1.8 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งตลาดอาจมองเป็นความเสี่ยงต่อภาระงบประมาณและการขึ้นอัตราภาษีได้

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คาดกำไรไตรมาส 1/64 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของปี คาดกำไรรวมทั้งกลุ่มที่ 5.1 พันล้านบาท +18% YoY แต่ลดลง 24% QoQ ซึ่งปัจจัยผลักดันมาจากการโอนที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะแนวราบ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่ยอดพรีเซล เติบโต 20% YoY สู่ระดับ 33 พันล้านบาท คิดเป็น 24% ของเป้าหมายของผู้ประกอบการ ซึ่งหมายถึงโอกาสทำได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่สูง ในกลุ่มนี้เราชอบ AP, LH และ SPALI โดยมี LH เป็นหุ้นเด่น ขณะที่ AP คาดรายานกำไรไตรมาส 1/64 แข็งแกร่งสุด +102% QoQ และ +32% QoQ

กลุ่มไฟฟ้า แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานทั้งกลุ่มดีขึ้น  8% YoY และ 28% QoQ  มาจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาและ ราคา gas ที่ลดลงประมาณ 17% YoY ซึ่งส่งผลดีกับโรงไฟฟ้า SPP  ทั้งนี้เมื่อรวมผลกระทบจาก FX และรายการพิเศษ กำไรสุทธิของกลุ่มคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 82% YoY แต่ลดลง 13% QoQ โดยหุ้นที่คาดรายงานกำไรเด่นในไตรมาสนี้ ได้แก่ GULF (  +139% YoY  +78% QoQ) จากการเงินปันผลรับหลังเข้าถือหุ้น INTUCH และราคา gas ที่ปรับตัวลดลง  / GPSC ( +6% YoY +17% QoQ) จากราคา gas ที่ปรับตัวลดลง และผลของฤดูกาล // ส่วน RATCH, BPP และ EGCO กำไรลดลง YoY เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า HPC และค่าความพร้อมจ่าย (AP) ที่ลดลงของโรงไฟฟ้า BLCP

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back รวมถึง Asset warehousing เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, TISCO 2) กลุ่มการแพทย์ BCH, CHG 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) Re-rating PTG 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 7) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, TOP ส่วน SCC ยังขึ้นน้อยที่สุดใน 1 ปี ที่ผ่านมา 8) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP 9) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังมองบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/64 โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ออกมาดีกว่าคาดต่อเนื่อง บวกต่อการปรับเพิ่มประมาณการและราคาเหมาะสม เน้นเลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร IRPC*, EASTW*, TVO*, TWPC*

แนวรับ 1,560 / แนวต้าน : 1,580-1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ADB คาดเศรษฐกิจเอเชียปี 64 โต 7.3%. ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB คาดการณ์เศรษฐกิจกลุ่มประเทศเอเชียจะขยายตัวที่อัตรา 7.3% ในปีนี้ จากแรงหนุนของเศรษฐกิจที่ฟื้นแกร่งรวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

โกลด์แมนคาดราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง 13.5% ในอีก 6 เดือนข้างหน้า. โกลด์แมน แซคส์ คาดราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มขยายตัว 13.5% ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยทีปัจจัยหนุนจากการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก, อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

คลังยันมีงบเพียงพอเยียวยาโควิด-19 ไม่ต้องกู้เพิ่ม. รมว.คลัง เผยยังไม่มีแผนออก พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มเติม โดยยืนยันว่าคลังยังมีงบประมาณในการดูแลสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีก 3.8 แสนล้านบาท

คลังเตรียมดึงการบินไทยกลับสู่รัฐวิสาหกิจ. กระทรวงการคลังเตรียมดึง “การบินไทยกลับสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง โดยให้กองทุนวายุภักษ์ขายหุ้นให้ ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ที่คลังถือหุ้น 100% เพื่อเสริมสภาพคล่อง ขณะที่ คมนาคมคัดค้านเหตุกระทบเพดานหนี้ 3 แสนล้านบาท

ประเด็นติดตาม: - 30 เม.ย.: Chinese Manufacturing PMI เดือน เม.ย., TH Economic Review

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)