'เวิร์คฟรอมโฮม’ นำเทรนด์ วิถีใหม่ ‘ชีวิตคนเมือง’

โฉมใหม่ ‘สถานที่ทำงาน’

ที่ผ่านมา พนักงานหลายล้านคนที่ต้องหันมาทำงานจากบ้าน จำเป็นต้องจัดสภาวะแวดล้อมให้พร้อมเพื่อรองรับการทำงานแบบเวอร์ชวล และให้มีสมาธิในการทำงานด้วย

ปัจจุบัน โลกทั้งใบกำลังคิดถึงรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งผสมผสานทั้งการทำงานจากที่บ้านและกลับไปที่สำนักงาน รูปแบบการทำงานแบบไฮบริดเช่นนี้ให้ประโยชน์แก่คนทำงานหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นลดค่าเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่าย ไม่ต้องปรับแปลงสภาพแวดล้อมในออฟฟิศ และพอกันทีกับการเดินทางไปกลับอันแสนน่าเบื่อ

อย่างไรก็ตาม ความจำเป็นในการดูแลงานระบบไอทีกลายมาเป็นภาระของพนักงานด้วยเหมือนกัน คำแนะนำคือ เปิดใช้ VPN ไม่ว่าจะทำงานจากบ้านหรือใช้เน็ตเวิร์คไวไฟสาธารณะ เพื่อป้องกันข้อมูล ปกปิดไอพีแอดเดรส และให้แน่ใจว่ากิจกรรมออนไลน์ต่างๆ จะปลอดภัย

จุดเปลี่ยน ‘ชุมชนเมือง’

ความคิดที่ว่า “Death of the suburbs” ถูกพูดถึงอยู่หลายครั้ง โดยนักประชากรศาสตร์และนักสังคมวิทยา แต่เนื่องจากโควิดจึงกลับมาเห็น “การกลับคืนสู่ย่านชานเมือง” ผุดขึ้นมาอีกครั้ง

โดยผู้คนจำนวนมาก ต่างทิ้งเมืองที่หนาแน่น และเลือกมาใช้ชีวิตท่ามกลางสีเขียวตามชานเมืองที่ไม่มีผู้คนวุ่นวาย ขณะเดียวกัน “Zoom towns” ก็กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มสื่อ จากสถานที่ท่องเที่ยวกลายมาเป็นที่ดินสุดฮอต ที่คนทำงานพากันหนีจากความวุ่นวายในเมืองมาอยู่อาศัยและทำงานจากโลเคชั่นเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม บทเรียนจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ คือ คนเราต้องการพบเจอตัวต่อตัว นั่นคือธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการอยู่เป็นสังคม สังสรรค์และสื่อสารพบปะพูดคุยที่ได้มองตากัน ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม เพื่อทำงานได้อย่างราบรื่น และนี่ก็คือพื้นฐานของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่อย่างไรก็ยังเป็นที่ปราถนาอยู่นั่นเอง

ดังนั้น รูปแบบของเมืองในอนาคตก็ไม่ได้ถูกกำหนดลงไปตายตัว แต่พบว่ามีเทรนด์ชุมชนเมืองก่อตัวขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว นับเป็นเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มาแรง เป็นวิถีต่อไปแม้หลังการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง และกลายเป็นรูปแบบของชุมชนอนาคตที่ให้ผู้คนได้อยู่อาศัยแบบคนเมืองในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อครอบครัว รวมทั้งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแบบจับคู่ที่อยู่อาศัยกับออฟฟิศ หลังคาและระเบียงที่มีต้นไม้ มีสวนและสนามเด็กเล่น ร้านค้า ร้านอาหาร