ไลอ้อนฯ ชี้โควิดรอบ3 สาหัส รอบคอบลงทุน ไม่ลดคน รอสินค้าจำเป็นฟื้นตัว

ไลอ้อนฯ ชี้โควิดรอบ3 สาหัส  รอบคอบลงทุน ไม่ลดคน รอสินค้าจำเป็นฟื้นตัว

'เครือสหพัฒน์' หนึ่งในองค์กรยักษ์ใหญ่และเก่าแก่ของไทย มีบริษัทในเครือนับร้อย "ไลอ้อน (ประเทศไทย)" หัวหอกผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เจอวิกฤติโควิด-19 แต่ยอดขายโตเฉียด 20,000 ล้าน ทว่า ปี 64 ไวรัสระบาดรอบใหม่ ทำธุรกิจต้องระวังรอบด้าน หาโอกาสโตให้เจอ

ในวิกฤติสินค้าอุปโภคบริโภค”(FMCG) ที่มีมูลค่าประมาณ 900,000 ล้านบาท มักเป็นหมวดหมู่ที่ได้รับผลกระทบน้อย เพราะเป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพที่ผู้บริโภคต้องกินต้องใช้ แต่ใช่ว่าสินค้าทุกรายการจะขายดี เพราะนาทีนี้อะไรประหยัดได้ ผู้บริโภคพร้อมใจรัดเข็มขัด

ไลอ้อน” หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของสินค้าอุปโภคบริโภคจากเครือสหพัฒน์มีสินค้าทั้งผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน แชมพู บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น แบรนด์เอสเซ้นส์, เดอ ปารี, ซื่อสัตย์, ซิสเทมมา, ซอลส์ และไลปอนเอฟฯ ปีก่อนสร้างยอดขายได้เติบโตอย่างน่าพอใจ ทั้งที่เผชิญวิกฤติ แต่เมื่อไวรัสระบาดมาราธอนข้ามปี และระลอก 3 รุนแรงกว่ารอบแรกทำให้การฟื้นตัวของตลาดโดยรวมยากขึ้น

โรคโควิดระบาดรอบแรกดูเบาเหมือนนุ่นเลย เมื่อเทียบกับระลอก 3 ทั้งปริมาณผู้ติดเชื้อที่แตะหลักพัน ผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และการระบาดมีผู้ติดเชื้อเร็วกว่ารอบแรกมากมุมมอง บุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด

ในมิติด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ เมื่อไวรัสระบาดรอบแรก รัฐจัดการล็อกดาวน์ สกัดโรคได้เร็ว และมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก มีโครงการคนละครึ่งกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ผู้ประกอบการสินค้าได้ประโยชน์ แต่ระลอกใหม่เงินจากภาครัฐอาจพร่องลงไป จึงมีผลต่อการตัดสินใจใช้มาตรการขั้นสุดสกัดโรค เพราะอาจไร้เงินเยียวยาผู้เดือดร้อนเหมือนรอบแรก

ทั้งนี้ ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ ปี 2563 ไลอ้อนฯ ปรับตัว หาแนวทางบริการจัดการธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทเกือบแตะ 20,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตกว่าปี 2562

161961749022

ขณะเดียวกันปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ซักล้างได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น โฟมล้างมือ สบู่คิเรอิคิเรอิ ผงซักฟอกเปา ซึ่งมีสูตรซิลเวอร์นาโนที่ช่วยกำจัดไวรัสเวลาซักผ้า

สำหรับแผนธุรกิจปี 2564 บริษัทยังคงทำการตลาดสินค้าตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ยอดขายและกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่วนการ ลงทุน” ปีนี้จะไม่เห็นการขยับขยายธุรกิจหรือเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าในโรงงาน จากปกติลงทุนเกือบทุกปี ประกอบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทลงทุนราว 1,000 ล้านบาท สร้างหออบผงซักฟอกแห่งใหม่ที่อ.ศรีราชา .ชลบุรี อัพเกรดเทคโนโลยี เครื่องจักรและเพิ่มกำลังผลิตรวม 600,000 ตันต่อปี โดยไลอ้อนฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2

ปกติไลอ้อนฯ ลงทุนทุกปี แต่ปีนี้เราไม่มีโครงการใช้เงิน ขยายธุรกิจ การลงทุนต้องระมัดระวัง รอบคอบมากขึ้น 

161961701297

ไลอ้อนฯ เป็นผู้ผลิตสินค้าจำเป็นในเครือสหพัฒน์ มีพนักงานราว 2,600-2,700 คน โดยโรงงานมีมาตรการป้องกันโรคโควิดอย่างเคร่งครัดทั้งตรวจอุณหภูมิพนักงานก่อนเข้าโรงงาน สวมหน้ากาก เป็นมาตรฐานทั่วไป แต่บริษัทยังสร้างไลน์กลุ่มเพื่ออัพเดทไทม์ไลม์ และรายงานทุกสถานการณ์ที่เกี่ยวกับโควิดให้ทุกคนทราบ และทุกคนยังทำงานตามปกติไม่มีการลดคนงานแต่อย่างใด

ตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบแรกจนถึงระลอกใหม่ ไลอ้อนฯ ยังไม่มีการลดพนักงานเลย

สำหรับแนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปี 2564 จะเติบโตหรือไม่ ยังต้องจับตาดูสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด หากคุมทุกอย่างให้จบในไตรมาส 3 มีโอกาสจะฟื้นตัว แต่ยอมรับอีกตัวแปรคือกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวลง และหากโรคระบาดยังลากยาว จะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) รายได้ประเทศหายไปและยิ่งเผชิญความยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม ไลอ้อนฯ ยังตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตกว่าปีก่อน เพราะยังเชื่อว่ามีโอกาสซ่อนในวิกฤติ ในฐานะที่บริษัทดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 50 ปี ผ่านมาหลายเหตุการณ์ หนึ่งในนั้นคือวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังจากนั้นบริษัทใช้ศาสตร์การบริหารธุรกิจคู่คุณธรรมดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความมีคุณธรรมเป็นหัวใจในการดำเนินกิจการ เป็นการสร้างประโยชน์สุขทั้งต่อพนักงาน ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบของ องค์กรคนดี” ส่งผลให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง

161961719294

หลังวิกฤติปี 40 ไลอ้อนฯขับเคลื่อนธุรกิจในรูปแบบองค์กรคนดี ส่งผลให้การเติบโตของบริษัทสูงกว่าจีดีพีมาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้ต้องปรับสูตรบริหารใหม่ ควบคู่กับประเมินสถานการณ์โควิดคลี่คลายเมื่อใดเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งนาทีนี้อยากให้เหตุการณ์จบโดยเร็ว ไม่ต้องการเห็นคนไทยฉวยโอกาสซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยการวิพากษ์ลบบั่นทอนคนทำงาน