สายด่วน191 ยังไม่พร้อม รับเคสป่วย โควิด-19 "รองผบ.ตร." ขอหารืออีกรอบ27เมษายน นี้

สายด่วน191 ยังไม่พร้อม  รับเคสป่วย โควิด-19 "รองผบ.ตร." ขอหารืออีกรอบ27เมษายน นี้

ตำรวจ ร่วมสาธารณสุข หารือแนวทางเตรียมใช้ สายด่วน 191 ช่วยประสานข้อมูลรับส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 แต่ยังไร้ข้อสรุป เหตุต้องศึกษาข้อมูลจากแพทย์ก่อน ย้ำ191 เป็นหน่วยเสริม

       พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เพื่อรับแจ้งข้อมูลประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีรอง ผบช.ภ.1-9 หัวหน้าศูนย์วิทยุ 191 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเข้าประชุมด้วย

       ทั้งนี้ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า การประชุมยังไม่ได้ข้อยุติ และยังไม่พร้อม เพราะเจ้าหน้าที่สายด่วน 191 ต้องเรียนรู้จากแพทย์ก่อนว่า จะมีคำแนะนำ การส่งต่อ หรือมีวิธีการพูดอย่างไร ดังนั้นต้องทำแผนก่อน ส่วนรายละเอีดรวมถึงข้อกำหนดต่างๆ จะนำเข้าที่ประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 27 เมษายนนี้

       

      รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า การหารือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องการให้ตำรวจเข้าไปมีส่วนสนับสนุนรับแจ้งเหตุช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ในสถานการณ์โควิด-19 และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางการทำงาน โดยเป็นการประชุมหารือหลักการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข  สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 และสายด่วนเฉพาะกิจ 1668 โดยแนวทางเบื้องต้นน คือ จะจัดให้มีตำรวจไปอยู่ที่ศูนย์ 1668 และ 1669 เพื่อส่งต่อข้อมูลและประสานงานอย่างใกล้ชิด

        "สำหรับ หน้าที่ของ 191 จะเป็นผู้ประสานงานช่วยสนับสนุนรองรับกรณีผู้ป่วยโควิด-19 กรณีหากโทรไปเบอร์หลักเกิดคู่สายเต็ม หรือติดต่อไม่ได้ จะมีทางเลือกอีกทาง คือ 191 จะช่วยเก็บข้อมูลผู้ป่วยโควิด เพื่อช่วยเหลือส่งต่อข้อมูลและตามประสานให้ว่าได้รับการแก้ปัญหาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้เรามีศูนย์ 191 จำนวน 1,200 คู่สายทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่เข้าเวร 24 ชั่วโมง แต่ขอย้ำว่าหมายเลข 191 เป็นเพียงหน่วยสนับสนุน และตัวเลือกสุดท้ายหากเบอร์หน่วยงานหลักคู่สายเต็ม โดยหน้าที่หลักยังคงรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายตามปกติ แต่ที่เพิ่มเข้ามาเป็นเหตุเฉพาะกิจ" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว.