กรมการแพทย์เตรียม 'Hospitel' เพิ่ม 4 แห่งรับผู้ป่วยกทม. 2,013 ราย

กรมการแพทย์เตรียม 'Hospitel' เพิ่ม 4 แห่งรับผู้ป่วยกทม. 2,013 ราย

อธิบดีกรมการแพทย์ และ รมช.สธ. ประชุมหารือประเด็นที่ประชาชนโทรศัพท์ไปยังสายด่วน เพื่อ "หาเตียง" หรือรอเตียงเข้ารักษาโรคโควิด-19 ล่าสุด.. จะมีการจัด "Hospitel" เพิ่มอีก 4 แห่งใน กทม. มารองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น

วันนี้ (24 เม.ย.) ในการแถลงข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ได้กล่าวถึงกรณีของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โทรศัพท์เข้าเบอร์สายด่วนเพื่อ "หาเตียง" แล้วโทรไม่ติดหรือไม่มีการรับสาย รวมถึงหาเตียงไม่ได้ ไม่มีเตียงว่าง

ประเด็นนี้ นพ.ทวีศิลป์ได้เปิดเผยชุดข้อมูลจากที่ประชุมของกรมการแพทย์ ที่เป็นหน่วยงานรับมอบอำนาจในการจัดทำข้อมูลจากประชาชนผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่ ระบุว่า วันนี้มีผู้ป่วยที่รอเตียงหรือรอการเข้ารับรักษาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,013 ราย ที่รอเตียง (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 590 ราย และเมื่อวานนี้ได้ดำเนินการให้ผู้ป่วยที่รอเตียงเข้าไปรักษาใน รพ. เสร็จสิ้นแล้ว 714 ราย)

ส่วนวันนี้ ทางอธิบดีกรมการแพทย์ และ รมช.สธ. มีการประชุมหารือเรื่องนี้ ที่ประชุม EOC สรุปว่าจะมีการบริหารจัดการหาเตียงให้ผู้ป่วย 2,013 รายนี้ให้ได้ โดยจะจัดเตรียม "รพ.สนาม" หรือ "Hospitel" เพิ่มอีก 4 แห่ง และเจ้าหน้าที่จะโทรกลับไปหาผู้ป่วยที่ติดต่อมาในจำนวนดังกล่าว ภายใน 2-3 วันนี้ เพื่อให้เข้ามายัง "รพ.สนาม" หรือ "Hospitel" ทั้ง 4 แห่งนี้ที่ได้เตรียมการไว้แล้ว

 เพราะฉะนั้น ให้ผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่รอรับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ได้เลย หากอาการไม่รุนแรงจะนำส่งไปที่ "รพ.สนาม" หรือ "Hospitel" แต่ถ้าอาการรุนแรงแพทย์จะซักประวัติ แล้วจะนำส่งโรงพยาบาลที่รองรับ คู่กันกับ"รพ.สนาม" หรือ "Hospitel" เป็นลำดับต่อไปอย่างเหมาะสม

ซึ่งจะมีระบบโลจิสติกจากทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เข้ามาเสริมทีมกับทางกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเดินทางมารับผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษา จึงขอความร่วมมือให้ผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่นั้น โปรดรอรับสายและเตรียมตัวไป รพ.สนามหรือฮอสพิเทล (Hospitel) ได้เลย

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งพบปัญหาว่ามีหลายสายที่เจ้าหน้าที่ได้โทรกลับไปแล้ว แต่ไม่มีคนรับสาย จำนวนมากถึง 146 สาย และบางรายก็ปฏิเสธการส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลที่รัฐจัดให้ ดังนั้นทางทีมแพทย์จึงฝากขอความร่วมมือท่านให้รับสายและเข้ารับการรักษาโดยแอดมิดในโรงพยาบาลที่ทางรัฐจัดให้ด้วย