เปิดเกมรุก“เพื่อไทย-คนแดนไกล” ปลุก“รุ่นใหม่-แนวร่วม”ถล่ม“ประยุทธ์”

เปิดเกมรุก“เพื่อไทย-คนแดนไกล” ปลุก“รุ่นใหม่-แนวร่วม”ถล่ม“ประยุทธ์”

โควิดรอบ 3 แม้จะทำให้การเมืองไทยต้องเว้นวรรค พักยก แต่สถานการณ์ที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ พลาดท่า จนตกอยู่ในสภาพขาลง จึงกลายเป็นช่องให้ฝ่ายตรงข้าม ทั้งทีมเพื่อไทย คนแดนไกล และแนวร่วม ไม่พลาดโอกาสปลุกพลังมวลชนคนรุ่นใหม่ร่วมกันรื้อระบอบทหาร และรุกไล่ “ผู้นำ”

โควิดรอบ 3 ทำเอารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกอาการเซ เกือบทรุด เพราะการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นวงกว้าง มิหนำซ้ำฝ่ายตรงข้ามได้โอกาสถล่มซ้ำรัฐบาลอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่รัฐบาลไม่กล้าใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนปีที่แล้ว เพราะเกรงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเยียวยา การจัดหาวัคซีน ปัญหาโรงพยาบาลสนาม ฯลฯ

ที่สำคัญต้นเหตุการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ “คลัสเตอร์ไฮโซ” ทำให้รัฐมนตรีอโคจรในรัฐบาลถูกครหา จนสะท้อนถึความไม่เชื่อมั่นต่อผู้นำรัฐบาล 

สถานการณ์ขณะนี้ แม้การชุมนุมบนถนน และการตั้งเวทีปราศรัย อาจจะเว้นวรรค พักยก เพื่อเลี่ยงโควิด แต่กระแสในโซเชียลยังสะท้อนความไม่พอรัฐบาลของม็อบรุ่นใหม่ รุ่นเก่า รวมทั้งนักการเมือง ที่ฉวยจังหวะเล่นสงครามข่าวสารทั้งในประเทศ และนอกประเทศ โดยเฉพาะอดีตนายกรัฐมนตรี สองพี่น้องตระกูลชินวัตร ที่ร่วมวงวิจารณ์การบริหารจัดการสถานการณ์โควิดในประเทศด้วย

เปิดเกมด้วยกลุ่มแคร์ CARE คิดเคลื่อนไทย คลังสมองของ“คนแดนไกล” ที่อาสาเข้ามารีโนเวทพรรคเพื่อไทย โดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ผู้ประสานงานกลุ่ม "หมอมิ้ง พรหมินทร์" ออกโรงตำหนิรัฐบาลประยุทธ์ พร้อมด้วยข้อเสนอ “ใช้ความรู้การแพทย์และสาธารณสุข ชี้นำการจัดการควบคุมโควิด-19 ได้แล้ว” ไม่ใช่ใช้แต่การเมือง หรือคิดแบบคนการเมืองเนื่องจากภาครัฐใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมโรค แต่ก็พลาด เพราะความหย่อนยานของผู้ใช้กฎหมาย “ความท้าทายต่อการจัดการของภาครัฐที่ถนัดใช้มาตรการกฎหมายบังคับใช้กับประชาชน แต่มักยกเวันการปฏิบัติกับอภิสิทธิ์ชน และพวกใช้กลไกราชการ

ขณะที่ประเด็น “วัคซีนเสรี” ที่หมอมิ้งพูดถึง ถูกย้ำความผิดพลาดของผู้นำรัฐบาล โดย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ในวันสงกรานต์ว่า “..ดิฉันกลับรู้สึกเศร้าใจ ที่ยังไม่เห็นความพยายามในการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการ ทำให้ความหวังของประชาชนเป็นจริง ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึงปัญหาการเข้าถึงวัคซีนที่ยังต่ำไม่ทั่วถึง และการเปิดกว้างให้ทุกโรงพยาบาล เพื่อนำเข้าวัคซีนที่หลากหลาย เพื่อชะลอ และป้องกันการติดเชื้อแก่พี่น้องประชาชนในอีกทางเลือกหนึ่ง”

+ “ทักษิณ”ฟาดระบอบประยุทธ์-ภาวะผู้นำ

ต่อจากนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่รอช้า สวมบท “โทนี่ วูดซัม” ร่วมชำแหละรัฐบาลในรายการ “ฝ่าวิกฤติโควิด” กับ Tony Woodsome ที่กลุ่มแคร์จัดให้ใน CARE clubhouse โดยโยนประเด็นให้ทักษิณออกมาไขคำตอบเรื่องฝ่าวิกฤตโควิดผ่านคลับเฮาส์ เมื่อคืนวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา

เนื้อหาที่ โทนี่ ทักษิณ พูดในช่วงตอบคำถามเรื่องการเมือง เรียกได้ว่า ฟาดระบอบประยุทธ์อย่างไม่มีกั๊ก “การบริหารจัดการไม่ได้กระจายอำนาจให้ประชาชนจริงๆ รวมศูนย์กลางอยู่ที่นายกฯ รู้หมด ทำได้ทุกเรื่อง ถ้ารวมศูนย์ไปนานๆ ประเทศไปลำบาก ในสายตาต่างประเทศ ประเทศไทยเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีที่สร้างปรากฎการณ์ เผด็จการผงาด พม่าเลียนแบบไทย แอฟริกาเลียนแบบตาม”

อีกตอนหนึ่ง ยังดิสเครดิตว่า “ประยุทธ์เป็นข้าราชการทหารมาทั้งชีวิต อยู่กับระเบียบวินัย อยู่กับการสั่งการแบบบนลงล่าง ใช้งบประมาณรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่คนเก่งเศรษฐกิจอะไร เราต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่พูดแล้วประยุทธ์ฟัง”

เมื่อถูกถามถึงผู้นำประเทศคนต่อไปจะเป็นอย่างไร ทักษิณตอบว่า “คนไทยมีคนเก่งเยอะ แต่การเมืองแบบนี้ คนเก่งๆ ไม่ค่อยกล้าเข้ามา เกิดมาเจอ 250 ส.ว.ก็เจ๊ง คือการเมืองแบบนี้เราจะคัดคนเก่งยาก ต้องอาศัยทหารต่อไป แต่ถ้าสมมติว่า พรรคการเมืองประชาธิปไตยเสนอคนที่มีประสบการณ์ กล้าตัดสินใจและรับฟัง จะเป็นคนที่แก้ปัญหาประเทศได้มากกว่า ไม่ต้องระบุว่าควรเป็นใคร แต่เป็นคนที่พร้อมเรียนรู้สถานการณ์ มีประสบการณ์บริหารจะแก้ปัญหาประเทศได้ เท่านั้นก็ได้หมด”

+ เพื่อไทย-ส.ส.ดาหน้าย้ำความล้มเหลว

การปรากฎตัวของ“ทักษิณ”ในคลับเฮาส์ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในออนไลน์ ไม่ต่างจากยุคที่เขาใช้การโฟนอินเข้ามาในเวทีคนเสื้อแดง

และปฏิเสธไม่ได้ว่า การสวมบท “พี่โทนี่” พูดคุยกับ Gen Y - Gen Z ด้วยการเสนอไอเดียทางธุรกิจ และข้อคิดการเมืองอย่างต่อเนื่อง ก็เพื่อเปรียบเทียบความเป็นผู้นำในภาวะวิกฤตระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลุ่มแคร์จึงใช้ช่องทางให้ “โทนี่” ได้มาพบกับเอฟซีเป็นระยะ

ขณะที่พรรคเพื่อไทย และสมาชิก ส.ส.ก็รับไม้ต่อ ตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ ในจังหวะเพลี่ยงพล้ำด้วยโควิด ด้วยการออกจดหมายเปิดผนึกในวันถัดมา 21 เม.ย. ถึง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ และ ผอ.ศบค. ที่เนื้อหาเหมือนหลอกด่า ด้วยการรวบรวมข้อตำหนิติเตือน พร้อมกับสอนมวยการเป็นผู้นำในภาวะวิกฤติ ทั้งให้ลดการสื่อสารกับประชาชนที่มุ่งมิติทางการเมืองเพื่อปกป้องตัวเองหรือโยนความผิดให้ประชาชน แผนฉีดวัคซีนต้องชัดเจน ต้องแสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน ลดการบริหารงานรวมศูนย์ล่าช้า แนะใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย และตบท้ายได้เสนอให้ความช่วยเหลือ

+ เสื้อแดง 2 สายปลุกกระแสไล่รัฐบาล

หันมาดูแนวร่วม ในจังหวะที่ม็อบคนรุ่นใหม่สะดุด นปช.ทั้งสาย “ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์” และสาย “เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-ธิดา ถาวรเศรษฐ -เหวง โตจิราการ” กำลังหันมาปลุกกระแสคนเสื้อแดง

โดยยกแรก  “ตู่ จตุพร” ประธาน นปช. และ“อดุลย์ เขียวบริบูรณ์” ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 จัดชุมนุมไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ที่อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม เมื่อ 4 เม.ย.และจัดเวทีต่อเนื่องทุกวันท่ี่สวนสันติพร ข้าง สน.ชนะสงคราม  กระทั่งประกาศยุติชั่วคราวไปเมื่อ 7 เม.ย.เนื่องจากโควิดรอบใหม่ ถึงแม้การชุมนุม 3-4 วัน จะไม่สามารถดึงมวลชนได้มากมาย แต่ก็ประสบความสำเร็จในแง่การกระจายข่าวสาร

ล่าสุด “จตุพร” กระจายข่าวว่า 24 เม.ย.2564 กลุ่มสามัคคีประชาชนฯ จะจัดกิจกรรมอีกครั้ง แต่หากสถานการณ์โควิดไม่คลี่คลายจะหาช่องทางสื่อสารผ่านสื่อใหม่ โดยจะชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่ไม่ควรเกิดขึ้น ตั้งแต่การรวบอำนาจและหน่วยงานบังคับบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อการจัดการการระบาดของโควิด

การเคลื่อนไหวของ “ม็อบจตุพร” ที่มีทั้งกลุ่มเพื่อน “เดือนพฤษภา 2535” และมิตรต่างสี จึงไม่แปลกที่จะถูกผูกโยงกับเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ที่กลับมาโดดเด่นในเวทีคลับเฮาส์

อีกมุม “เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ปัดฝุ่น “สื่อเสื้อแดง” อีกครั้ง โดยประเดิมพอดแคสต์ใหม่ พรรคเพื่อไทย People’s Stories ประชาชนต้นเรื่อง “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเอาข้อมูล ข้อเท็จจริง จากความทรงจำและหลักฐานเชิงประจักษ์มาพูดคุยกันเพื่อ #คืนความจริง ให้กับวีรชนนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย”

ที่น่าสนใจ ในวาระรำลึก 11 ปี สลายการชุมนุม 10 เมษา 2553 และ 19 พฤษภา 2553 ทีมงานพรรคเพื่อไทย จึงออกแคมเปญ “คืนความจริง ให้คนเสื้อแดง” ร่วมชำระประวัติศาสตร์ รวบรวมความจริงหลากหลายแง่มุมที่ไม่เคยถูกพูดถึงของคนเสื้อแดง และสดุดีขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและยืนหยัดเคียงข้างประชาชนที่ยังรอคอยความยุติธรรม โดยมีการเชิญชวนให้ส่งข้อมูล ข้อเขียน เรื่องราว ความทรงจำ ภาพถ่าย ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง โดยไม่จำกัดรูปแบบ..”

 + “ธนาธร-ไอติม”ร่วมรื้อระบอบประยุทธ์

เมื่อทักษิณขยับเกมรุก พร้อมกับการจัดทัพเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ในจังหวะเดียวกันนี้ คณะก้าวหน้า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ปิยบุตร แสงกนกกุล” จึงประสาน “พิธา ก้าวไกล” ลุยรื้อระบอบประยุทธ์ ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา

รวมทั้งโหนกระแสโควิด โดย“ธนาธร” ร่วมกับเว็บไซต์ 101 จัดห้องคลับเฮาส์พูดคุยในประเด็นสถานการณ์โควิดระลอก 3 โดยขยี้แผลเรื่องการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด เพราะรัฐบาลประยุทธ์ออกอาการไปไม่เป็น ต้องดึงภาคเอกชนมาช่วยจัดหาวัคซีน

อีกด้าน “ธนาธร-ปิยบุตร” จับมือ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ผุดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ในนามกลุ่ม Re-solution ซึ่งกลุ่มนี้เป็นความร่วมมือกันของ 4 องค์กรคือ คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า และไอลอว์ หรือ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน 

สำหรับ “ไอติม” หลังลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ตั้ง “กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า” แตะมือกับภาคประชาชน จัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” (ครช.) เมื่อปลายปี 2562 และมีแนวโน้มที่จะเข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ทำให้ “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” ขยายงานแนวร่วมคนรุ่นใหม่ได้อีกระดับหนึ่ง

โควิดรอบ 3 แม้จะทำให้การเมืองไทยต้องเว้นวรรค พักยก แต่สถานการณ์ที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ พลาดท่า จนตกอยู่ในสภาพขาลง จึงกลายเป็นช่องให้ฝ่ายตรงข้าม ทั้งทีมเพื่อไทย คนแดนไกล และแนวร่วม ไม่พลาดโอกาสปลุกพลังมวลชนคนรุ่นใหม่ร่วมกันรื้อระบอบทหาร และรุกไล่ “ผู้นำ” ที่อาการกำลังทรุด