BANKING SECTOR (22 เม.ย.64)

BANKING SECTOR (22 เม.ย.64)

เริ่มต้นปีได้อย่างหล่อ

กำไรสุทธิรวมใน 1Q21 ของสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (DSIBs)  อยู่ที่ 3.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% qoq และ 8% yoy ซึ่งดีกว่าประมาณการของเรา และ consensus ถึง 40% โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการดีเกินคาดได้แก่ (1) OPEX ลดลงจากความพยายามที่จะลดต้นทุน (2) ECL ที่ทยอยกลับเข้าสู่ระดับปกติ และ (3) non-NII ที่แข็งแกร่ง

 

OPEX ลดลงจากความพยายามที่จะลดต้นทุน

OPEX ทรงตัว yoy และลดลง 15% qoq เหลือ 6 หมื่นล้านบาทใน 1Q21 ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล และความพยายามที่จะลดต้นทุนเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลง และความไม่แน่นอนที่เกิดจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 โดย OPEX ของทุกธนาคารลดลง โดยเฉพาะ BBL หลังไม่มีค่าใช้จ่ายในการรวมกิจการ Permata เข้ามาในเครือ และงานระบบใน 1Q21 ในขณะเดียวกัน สัดส่วน C/I เฉลี่ยก็ดีขึ้นอย่างมากโดยลดลงเหลือเพียง 44.2% จาก 52.7% ใน 4Q20

 

บริหารจัดการหนี้ได้ดี ในขณะที่ non-NII ก็ออกมาแข็งแกร่ง

โดยรวมถือว่าธนารคารต่าง ๆ บริหารจัดการหนี้ได้ดี แม้จะสิ้นสุดช่วงพักชำระหนี้แล้ว ทั้งการติดตามการชำระหนี้และการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยสัดส่วน NPL เฉลี่ยของ DSIBs ลดลงเหลือ 3.77% ใน 1Q21 จาก 3.83% ใน 4Q20 ซึ่งส่งผลให้  ECL ของธนาคารส่วนใหญ่จึงทยอยลดลง โดย ECL รวมของ DSIBs ใน 1Q21 อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท ลดลงมาจากระดับสูงสุดที่ 5.78 หมื่นล้านบาทในช่วง 2Q20 และจาก 4.18 หมื่นล้านบาทใน 3Q20 นอกจากนี้ non-NII ของ DSIBs ก็รายงานออกมาแข็งแกร่งอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% qoq และ 27% yoy แม้ว่า COVID-19 จะกลับมาระบาดระลอกสองในช่วงเดือน ธันวาคม 2020 และมกราคม 2021 ก็ตาม โดย non-NII ที่แข็งแกร่งมาจากรายได้จากธุรกิจกองทุนรวม และหลักทรัพย์ บวกกับการบันทึกกำไรจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL)

 

การระบาดระลอกสามอาจทำให้ผลประกอบการสะดุดแต่ภาพรวมจะค่อยๆฟื้นต่อ

ในระยะข้างหน้า เรามองธนาคารต่าง ๆ อาจจะต้องกลับมาตั้ง ECL เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับผลกระทบจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสาม เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q21 อาจย่อลงในเชิง qoq แต่ไม่น่าจะลดลงมาก หรือรุนแรงเท่ากับใน 2Q-3Q ของปีที่แล้ว ซึ่งหมายความว่าผลประกอบการใน 2Q21 มีแนวโน้มสูงที่จะยังเติบโตได้ค่อนข้างแรง yoy เนื่องจากผลของฐานกำไรที่ต่ำในปีที่แล้ว โดยเฉพาะในกรณีของ KBANK และ BBL ที่มีการตั้งสำรองหนี้เสียสูงมากในช่วงดังกล่าว แต่เมื่อมองเลยจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มอาจจะสะดุดในระยะสั้นนี้แล้ว เราคาดว่า ECL น่าจะทยอยเดินหน้ากลับเข้าสู่ระดับปกติได้ต่อ และจะเป็นปัจจัยหลักช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปี 2021-22 เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ OVERWEIGHT โดยเลือก KBANK เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร