อัพเดท! ยอดใช้จ่าย 'เราชนะ' พุ่ง 2 แสนล้านบาท รับสิทธิแล้ว 32.8 ล้านคน

อัพเดท! ยอดใช้จ่าย 'เราชนะ' พุ่ง 2 แสนล้านบาท รับสิทธิแล้ว 32.8 ล้านคน

อัพเดท! ยอดใช้จ่ายโครงการ “เราชนะ” พุ่ง 2 แสนล้านบาท ประชาชนรับสิทธิแล้ว 32.8 ล้านคน

ความคืบหน้าของโครงการ "เราชนะ" มาตรการแจกเงินเยียวยาประชาชนจากรัฐบาล กรณีได้รับผลกระทบจาก "เชื้อโควิด 19" แพร่ระบาด ณ วันที่ 21 เมษายน 2564 ดังนี้ 

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,254 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 113,233 ล้านบาท
  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,247 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 200,734 ล้านบาท 

อัพเดท!: 

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ "เราชนะ" รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

161900975411

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3533 3566 3579 และ 3595 (เฉพาะวันและเวลาราชการ) Call Center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2111 1122

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับประชาชน กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน) ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ ระหว่างวันที่ 8 – 26 มีนาคม 2564 และตรวจสอบสถานะแล้ว พบว่าผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติ

สามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชน โดยยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

ดังนั้น นี่ก็วันที่ 19 เมษายนแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการตรวจสอบสถานะคัดกรอง พร้อมยืนยันตัวตน

ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะได้รับวงเงินสิทธิ์จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564