'ทัวร์ฉีดวัคซีน' เรื่องจริงหรือแค่โฆษณา

'ทัวร์ฉีดวัคซีน' เรื่องจริงหรือแค่โฆษณา

การไปท่องเที่ยวพร้อมพบแพทย์หรือศัลยกรรมความงามไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ นัั่นคือ “การท่องเที่ยววัคซีน” ที่นักเดินทางไปต่างประเทศเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

ตอนนี้บริษัททัวร์หลายแห่งทั่วยุโรปกำลังเสนอแพ็กเกจกับลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่า การเดินทางไปฉีดวัคซีนในอีกประเทศหนึ่งถูกกฎหมายหรือไม่ บริษัททัวร์จัดได้จริงหรือ เพราะขณะที่ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกกำลังรอคอยฉีดวัคซีน แต่เจ้าของประเทศกลับไม่ได้ฉีดเพราะต้องเอาไปฉีดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างนั้นหรือ

เว็บไซต์ยูโรนิวส์รายงานว่า “World Visitor” บริษัทท่องเที่ยวนอร์เวย์ เสนอแพ็กเกจทัวร์รัสเซียให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลายทุกแพ็กเกจรวมการฉีดวัคซีนสปุตนิกวีของรัสเซียไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจราคา 1,199 ยูโร ที่ลูกค้าสามารถเดินทางได้สองเที่ยวสำหรับวัคซีนสองโดส หรือ แพ็กเกจ 2,999 ยูโร ให้ลูกค้าได้พักผ่อนที่รีสอร์ทเพื่อสุขภาพสุดหรูของรัสเซีย 22 วันโดยได้รับวัคซีนตั้งแต่เริ่มและจบทริป

ทางเลือกที่ 3 คือไปพักสปาในตุรกีโดยแวะที่สนามบินมอสโก ที่เร็วๆ นี้จะตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนในอาคารผู้โดยสาร

ทริปวัคซีนจากเยอรมนีและออสเตรีย

บริษัทท่องเที่ยวฟิตแทรเวลของเยอรมนี เริ่มเสนอทัวร์ฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โฆษกบริษัทเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ลูกค้าสอบถามเข้ามามากว่าเป็นไปได้หรือไม่ถ้าจะไปพักผ่อนพร้อมๆ กับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ไอเดียนี้ถูกชะลอไปก่อน เนื่องจากคาดว่าเยอรมนีจะฉีดวัคซีนเพิ่มได้ภายในเดือน เม.ย. แต่ในเมื่อความจริงยังฉีดได้ไม่มาก บริษัทนำเที่ยวก็อาจจะทำทัวร์วัคซีนอีก

ขณะเดียวกันบริษัท Impfreisenของออสเตรียก็เปิดให้จองแพ็กเกจทัวร์รวมทุกอย่างรวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์  บริษัทแถลงผ่านเว็บไซต์ ระบุ “เป็นเรื่องที่น่าเสียใจยิ่งและเป็นความเสียหายต่อพวกเราทุกคนที่สหภาพยุโรปไม่สามารถจัดหาวัคซีนให้ชาวยุโรปทุกคนได้ทันเวลา”

สำหรับคนที่ซื้อทัวร์ไม่ได้ Impfreisen เสนอทริปท่องเที่ยวฟรีให้ลูกค้า 1 ใน 10 ที่จองแพ็กเกจถูกสุด โดยพวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่า มีความจำเป็นด้านการเงินจริงๆ

การสนับสนุนของรัฐบาล

แม้มีข่าวว่า เดือน ก.ค.นี้จะมีการท่องเที่ยวเพื่อไปฉีดวัคซีนสปุตนิกวีของรัสเซีย แต่รัฐบาลรัสเซียก็ไม่เคยให้ไฟเขียวอย่างเป็นทางการให้นักท่องเที่ยวบินไปฉีดวัคซีน

บัญชีทวิตเตอร์ทางการของสปุตนิกวีเคยทวีตข้อความ “ฉีดวัคซีนสปุตนิกวีในรัสเซีย ใครมาบ้าง?” พร้อมๆ กับภาพผู้คนยืนอยู่ข้างเครื่องบินลำหนึ่งมีข้อความ “สปุตนิก” อยู่บนตัวเครื่อง

บัญชีทวิตเตอร์นี้ยังทวีตต่อว่า นี่ไม่ใช่เรื่องตลก รัสเซียกำลังทำโครงการเปิดให้ชาวต่างชาติมีโอกาสเข้ามาฉีดวัคซีนสปุตนิกวีป้องกันโควิดตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้

ถึงขณะนี้รัสเซียยังคงระมัดระวังในเปิดตัวโครงการดังกล่าว ดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยอมรับว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาบางเรื่อง กระนั้น “ประชาชนยังสำคัญสูงสุด”

พร้อมกันนั้นก็มีข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่า นักท่องเที่ยวจากตุรกีไปทัวร์ฉีดวัคซีนที่เซอร์เบีย ซึ่งเอกอัครราชทูตตุรกีประจำกรุงเบลเกรด และสถานทูตเซอร์เบียในกรุงอังการาต่างปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เฉพาะชาวตุรกีที่มีถิ่นพำนักในเซอร์เบียเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีน

การท่องเที่ยววัคซีนถูกกฎหมายหรือไม่

ณ ปัจจุบัน ไม่มีการจัดการอย่างเป็นทางการให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ ดังนั้น “นักท่องเที่ยววัคซีน” อาจผิดหวังและเสียเงินไปเปล่าๆ

บางประเทศกำลังสร้างความชัดเจนว่า ไม่มีการรับนักท่องเที่ยวแบบนี้ ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักร การฉีดวัคซีนต้องทำผ่านระบบสาธารณสุขเท่านั้น และต้องคอยจนกว่าหมอเรียก ตอนทำนัดจำเป็นต้องยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่ ประเทศอื่นๆ ก็น่าจะใช้มาตรการแบบนี้

จริยธรรมของการท่องเที่ยววัคซีน

ทัวร์ฉีดวัคซีนอาจตอบสนองเป้าหมายร่วมของชาวโลก นั่นคือยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในเมื่อประชากรส่วนใหญ่ยังคอยวัคซีน จึงเป็นธรรมแล้วหรือที่คนมีเงินสามารถเดินทางไปต่างแดนเพื่อทำแบบนี้ได้

ในบางประเทศ เช่น เซอร์เบีย ที่ประชาชนได้ข้อมูลผิดๆ หรือเพราะเหตุผลอื่นทำให้ลังเลไม่กล้าฉีดวัคซีน การเสนอวัคซีนที่เหลือให้คนอื่นฉีดก่อนหมดอายุอาจทำได้ แต่สำหรับประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา การท่องเที่ยววัคซีนอาจทำให้การรอคอยที่เคร่งเครียดอยู่แล้วต้องคอยนานไปอีก ส่วนประเทศรวยบางประเทศเริ่มผูกขาดการฉีดวัคซีนด้วยการสั่งของมาเกิน ถ้ามีคนพากันไปทัวร์วัคซีนก็ยิ่งซ้ำเติมปัญหา