Sideways Down (21 เม.ย.64)

Sideways Down (21 เม.ย.64)

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวรับ 1570 / 1563 จุด แนวต้าน 1585 / 1593 จุด แนะนำ เก็งกำไร MTC TSTH KK สัญญาณทางเทคนิคยังคงเป็น Positive Signal โดยมีแนวต้านเป้าหมายที่ 1585 / 1593 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ 1. ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อตลาด หากตัวเลขไม่พุ่งแรงเหมือนสัปดาห์ก่อน 2. รายงานผลกำไรบจ. กลุ่มธนาคารใหญ่ (วานนี้ KBANK TMB รายงานกำไรดีกว่าคาด) 3. ครม. กำลังพิจารณาออกมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ลงเป็น 1.8% (Vs เดิม 2.6%) 4. ผลกระทบจาก Ex-Dividend กลุ่มธนาคารใหญ่

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตาม

        ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลง หลัง WHO เผยจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นในทุกกลุ่มอายุ (-กลุ่ม Vaccine Plays)

        รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการช่วยเหลือ / เยียวยารอบใหม่ คาดกลับมาใช้มาตรการเดิม อาทิ คนละครึ่ง (+กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ)

        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเป็น 1.8% (Vs เดิม2.6%) โดยลดการบริโภคภาคเอกชนเหลือ 2.8% (Vs เดิม 3.4%)

        Ex-Dividend วันนี้ มีผลกระทบต่อดัชนีฯ -0.82 จุด นำโดย BBL KTB

        จับตาผลกำไรกลุ่มธนาคารวันนี้ BBL KTB SCB หลังวานนี้ KBANK TMB รายงานกำไร ดีกว่าคาดการณ์ (+กลุ่มธนาคาร)

        TSTH ประกาศงบวานนี้และกำไรพุ่ง จากราคาเหล็กโลกปรับสูงขึ้นและอุปสงค์เพิ่ม (+กลุ่มเหล็ก)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

Canada-คาดธนาคารกลางคงดอกเบี้ย 0.25% แต่อาจส่งสัญญาณการซื้อ QE ลดลง,Russia-ประธานาธิบดีปูติน กล่าวสุนทรพจน์ประจำปี, UK-Inflation rate เดือน มี.ค. คาด+0.8% YoY (Vs เดือน ก.พ. 0.4% YoY) Core Inflation Rate เดือน มี.ค. +1.1% YoY (Vs เดือน ก.พ. +0.9% YoY)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่สาม: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1570-1582 จุดก่อนมาปิดตลาดที่ 1580.04 จุด +5.13 จุด +0.33% วอลุ่ม 1.03 แสนล้านบาท (Big Lot 1.21 พันล้านบาท) นำขึ้นโดยกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +2.83% ธนาคาร +1.87% เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +1.67% หุ้นบวก >4% SAWAD GULF THCOM AMANAH BAY TAKUNI AKR KK SAAM TAPAC GBX KCM PERM PIMO ห้นุ ลบ >4%
SYNEX CHAYO

- ตลาดหุ้นโลกปิดลบต่อเนื่อง: WHO เผยการติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในประชาชนทุกกลุ่มอายุ ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นโลก เพราะวิตกการแพร่ระบาดของ COVID-19 กระทบเศรษฐกิจ นำลงโดยกลุ่มสายการบิน กลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่อ DJ -0.75% (-256.33 จุด) S&P500 -0.68% Nasdaq -0.92% ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง DAX -1.55% CAC -2.09% FTSE -2%

- น้ำมันดิบปิดลบ แต่ทองปิดบวก: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดลบ WTI -USD0.76 ปิดที่ USD62.67/บาร์เรล Brent -USD0.48 ปิดที่ USD66.57 วิตกอุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง หลังจากการประกาศล็อกดาวน์ที่อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากอันดับ 3 ของโลก ส่วนราคาทองคำกลับมาปิดบวก USD7.80 ปิดที่ USD1,778.40/ออนซ์ จากข่าวจีนนำเข้าทองคำด้วยปริมาณสูงสุดรอบ 14 ปี และจะอนุญาตให้ธนาคารสามารถนำเข้าทองคำในปริมาณมาก

ประเด็นสำคัญ

- ศบค.: จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ +1,443 ราย (เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ +1,390ราย) โดยหลัก ๆ มาจากการติดเชื้อในประเทศ +1,328 ราย (วันก่อนหน้า +1,058 ราย)

+ ไทย: นายกฯ ชี้แจงเรื่องการให้ เอกชนสามารถจัดหาวัคซีนทางเลือกว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อหารือกับโรงพยาบาลเอกชนและผู้เชี่ยวชาญในการหาข้อมูลว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ได้วัคซีนเข้ามาเร็วที่สุด

- Medias: 1Q21 เม็ดเงินโฆษณาอยู่ที่ 23,165 ล้านบาท -5% YoY แย่กว่าเป้าหมายเม็ดเงินโฆษณาปี 2021E ที่คาดเติบโต +3% YoY ทั้งนี้ แนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาเดือน เม.ย. 2021 คาดกลับมาอ่อนตัว MoM จากผลกระทบการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอก 3

- เศรษฐกิจ: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 1.8% จากเดิม 2.6% เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ที่มีความรุนแรงกว่าระลอกก่อนหน้า

- Vaccine: พบบุคลากรทางแพทย์หญิง ที่โรงพยาบาลระยอง 6 คน ที่รับวัคซีนของ Sinovac พบอาการอัมพฤกษ์ชั่วคราว พูดไม่ชัด เกิดอาการชา ขณะที่
นายกฯ เผยอยู่ระหว่างเจรจากับ Pfizer และมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งในเดือน ก.ค. จนถึงสิ้นปี จำนวน 5-10 ล้านโดส

- Indonesia: ธนาคารกลางวานนี้มีมติคงดอกเบี้ยที่ 3.5% และปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้เป็น 4.1-5.1% จากเดิม 4.3-5.3%

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: JMT PSL JMART

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MTC TSTH KK

Derivatives: ถือ Long S50M21 ที่เปิดไว้ต้นทุน 952-953 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)