พาณิชย์มั่นใจส่งออกปีนี้ทะลุเป้า 4 % สั่งลุยเจรจาออนไลน์เพิ่มยอดขาย

พาณิชย์มั่นใจส่งออกปีนี้ทะลุเป้า 4 %  สั่งลุยเจรจาออนไลน์เพิ่มยอดขาย

“จุรินทร์ “เปิดงานฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter  สั่งพาณิชย์จังหวัดรุกจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ หลังทีมเซลล์แมนประเทศลุยจัดเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ เผย 3 เดือนแรกของปีกวาดเงินเข้าประเทศกว่า 5,280 ล้านบาท ตั้งเป้าตลอดปี 64 กว่า 16,000

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบนโยบายให้กับทีม Salesman จังหวัดในรูปแบบ ออนไลน์ผ่านระบบ Webinar ภายใต้โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter  สถาบันพัฒนา ผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า  การส่งออกของไทยซึ่งถือเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนจีดีพีหรือภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย 

โดยในช่วงปีที่ผ่านมาการส่งออกของไทยเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.ติดลบ 22%  มิ.ย.ติดลบ 23% แต่หลังจากนั้นติดลบน้อยลงเป็นลำดับ ถึงเดือนก.ค.ติดลบ 11 % และธ.ค.ก็พลิกกลับมาเป็นบวกถึง 4.7% และปี 64 ตัวเลขเดือนม.ค.เป็นบวก  ส่วนก.พ.แม้ภาพรวมติดลบ แต่ถ้าหักทองคำ ยุทธปัจจัย และน้ำมันออก เหลือแต่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงถือว่าตัวเลขยังเป็นบวกอยู่ คาดว่ามี.ค.นี้การส่งออกของไทยจะขยายตัวไม่น้อยกว่า 8 %  ถือเป็นสัญญาณที่ดีและจะทะยานขึ้นเป็นลำดับ

สำหรับสินค้าสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกประกอบด้วย สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน และภาคอุตสาหกรรม อื่นๆ ผลิตผลทางการเกษตรที่ยังมีอนาคต โดยอาหารนั้นประกอบด้วยผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และอาหารกระป๋อง มีการขยายตัวที่ดี ส่วนตลาดสำคัญที่มีศักยภาพ รองรับสินค้าของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นอาเซียน CLMV และตลาดในทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวได้ดี แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวแต่การส่งออกยังคงเดินหน้าภายใต้ภายใต้ความร่วมมือทำงานหนักระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนทั้งทีมเซลล์แมนจังหวัดและทีมเซลล์แมนประเทศ

161898311621

นายจุรินทร์   กล่าวว่า  ในส่วนการของกิจกรรมผลักดันการส่งออกของไทยนั้นปีนี้จะเร่งเรื่องของการจับคู่ธุรกิจด้วยระบบออนไลน์ หลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19ก็ได้มีการปรับรูปแบบการเจรจาการค้าเพื่อการส่งออกเป็นระบบออนไลน์มากขึ้นส่งผลให้ยอดตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้น  เช่น ระบบไฮบริด ส่งสินค้าจริงไปยังประเทศปลายทางและเจรจาซื้อขายกันด้วยระบบออนไลน์ หรือ Mirror Mirror และรูปแบบจับคู่ธุรกิจออนไลน์ Online Business Matching (OBM)โดยทีมเซลล์แมนประเทศเจรจาและจัดพื้นที่ให้มีการเจรจาผ่านระบบออนไลน์ ผู้ส่งออกของไทยสามารถเจรจาทำสัญญาซื้อขายเจรจาจับคู่ ซึ่งใน ปี 2563 สามารถทำยอดขายเฉพาะระบบ OBM 15,000 ล้านบาท และปี 64 ตั้งเป้าหมายว่าจะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกปีนี้มียอดขาย  5,280 ล้านบาท จากผลของการจับคู่เจรจาธุรกิจ 33 ครั้งได้ 992 คู่ สามารถขายสินค้าให้กับผู้ส่งออกของไทย 325 ราย มีผู้นำเข้าจากต่างประเทศมาซื้อสินค้า 345 ราย

ส่วนไตรมาสที่เหลือกำหนดแผนงานไว้ชัดเจนแล้ว โดยจะเดินหน้าแม้ในภาวะวิกฤตโควิดเพื่อนำรายได้เข้าประเทศในทุกช่องทาง กำหนดเป้าหมายจัดให้มีการจับคู่ 85 ครั้ง เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตั้งเป้าจับคู่ไม่ต่ำกว่า 2,500 คู่ จะทำมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,600 ล้านบาท เช่น เดือนพ.ค.จะจับคู่เจรจากับห้าง Walmart ของสหรัฐอเมริกา และประเทศแอฟริกาใต้ จับคู่เพื่อขายสินค้าฮาลาล    เดือนก.ค.จับคู่เจรจา ขายอาหารสุขภาพ เป็นต้น

เป้าหมายการส่งออก 4 % ในปีนี้มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ภายในกรอ.พาณิชย์ ที่ทำงานร่วมกัน เมื่อเจออุปสรรคก็แก้ปัญหาร่วมกัน เช่น ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์  เป็นต้น การเร่งรัดการเจรจาเอฟทีเอในกรอบต่างๆ อาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้ก็จะทำให้ไทยสามารถเปิดตลาดได้มากขึ้น  รวมทั้งการทำมินิเอฟทีเอกับมณฑลหรือรัฐต่างๆในหลายประเทศ “นายจุรินทร์ กล่าว

161898314213

สำหรับโครงการฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter  นี้เป็นโครงการเพื่อให้ทีมเซลล์แมนจังหวัด เซลล์แมนประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยทำยอดการเจรจาจับคู่ซื้อขายระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ เปิดพื้นที่ให้กับ SMEs และ Micro SMEs มาเจรจาจับคู่ในระบบ OBM ของกระทรวงพาณิชย์ได้ด้วย  โดยกิจกรรมดังกล่าวสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA)จะเชิญผู้มีประสบการณ์มาให้ความรู้เจรจาปิดการขาย ให้องค์ความรู้ การทำสัญญาโดยให้ความรู้เบื้องต้นกับทีมเซลล์แมนจังหวัดที่ประกอบด้วยพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาเกษตรกร Biz Club และกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเป็นแม่ไก่นำความรู้ไปถ่ายทอดกับผู้ประกอบการต่อไป