'ผบ.ทร.' สั่งแจง 'กำลังพล' ร่วมพิธี 'หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล'

'ผบ.ทร.' สั่งแจง 'กำลังพล' ร่วมพิธี 'หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล'

โฆษกกองทัพเรือ แจงภาพกำลังพลกองทัพเรือ เข้าร่วมพิธีทางความเชื่อของ 'หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล' จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อสร้างความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่

 21 เม.ย.2564 จากกรณีชายที่แต่งกายคล้ายพระ แต่ผ้าเป็นสีดำ พร้อมอ้างว่าตนเองนั้นเป็นหลวงปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล หรือหลวงปู่องค์ดำ โดยเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังหญิงสาวรายหนึ่งร้องเรียนว่า มารดามีอาชีพเป็นครู หนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม เกรงว่าแม่จะถูกหลอกเพราะเงินเดือนแม่เกือบ 1 แสนบาทไม่เหลือ แถมล่าสุดแม่ของตนถึงขั้นสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่จึงรึดเข้าตรวจสอบ สำนักพุทธเทพสุริยะจักรวาล  เบื้องต้นไม่พบความผิด โดยเจ้าตัวเดินหนีสื่อ หลังถูกสอบถามกระแสข่าวเคยข่มขืนสาวพิการจนตั้งท้อง 

ก่อนจะปรากฏข่าวว่ามีข้าราชการกองทัพเรือจำนวนหนึ่งแต่งเครื่องแบบสีขาว เข้าร่วมพิธีทางความเชื่อของหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล นั้น ล่าสุด พล.ร.อ. เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ  เปิดเผยว่า  รูปภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยเป็นการจัดพิธีบวงสรวงรูปหล่อองค์จักรพรรดิพุทธะเทพสุริยะจักรวาล และพิธีอัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาสูง ณ ดินแดนปฏิบัติธรรมพุทธะธรรมชาติ ดงพญาเย็น จังหวัดนครราชสีมา

สำหรับการจัดพิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อสร้างความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ นอกจากข้าราชการทหารกลุ่มดังกล่าวแล้ว ยังมีพระสงฆ์และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งข้าราชการที่ปรากฏในภาพ เป็นข้าราชการทหารเรือ ทั้งใน สังกัดกองทัพเรือและนอกกองทัพเรือ จริง สำหรับความเป็นมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มข้าราชการและหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล นั้น เป็นกลุ่มเพื่อนที่มีจิตกุศลเกี่ยวกับการทำบุญ (สายบุญ) ซึ่งมักจะเชิญชวนไปทำบุญด้วยกันเสมอๆ สำหรับการเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ เป็นการชักชวนจากเพื่อนในกลุ่มเพื่อนที่มีจิตศรัทธาแรงกล้าต่อหลวงปู่ดังกล่าว จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ เข้าร่วมพิธีดังกล่าว  โดยมีข้าราชการกองทัพเรือนายหนึ่ง ได้รู้จักกับหลวงปู่ฯ เจ้าสำนักคนนี้เมื่อปี 2563 
  

ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้ชี้แจงทำความเข้าใจ และสั่งการให้ยุติกิจกรรมทั้งปวงไม่ไปข้องเกี่ยวกับสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้อีกต่อไป เพราะจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งแก่ตนเองและกองทัพฯ นอกจากนี้ กองทัพเรือได้ให้หน่วยต่าง ๆ ชี้แจงกำลังพลให้เข้าใจ โดยให้ยึดตามหลักคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ แต่หากมีความนับถือเป็นการส่วนตัว ขอให้อย่าได้นำภาพลักษณ์ของกองทัพเข้าไปมีส่วนร่วม​ โดยเฉพาะการแต่งกายและการแสดงออกในที่สาธารณะหรือสื่อสังคมออนไลน์