‘เงินบาท’วันนี้เปิด ‘อ่อนค่า’ที่31.29บาทต่อดอลลาร์

‘เงินบาท’วันนี้เปิด ‘อ่อนค่า’ที่31.29บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยง หลังกลับมากังวลแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง จากยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ตลาดเลือกหลบภัยความไม่แน่นอนในเงินดอลลาร์ กดเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า คาดบาทแกว่งในกรอบ 31.25- 31.35บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  31.29 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 31.27 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.25 - 31.35 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินโดยรวมอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หลังจากที่รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ไม่ได้ออกมาดีเกินกว่าการคาดการณ์ของตลาดไปมากนัก ขณะเดียวกัน ตลาดก็เริ่มกลับมากังวลแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฝั่งประเทศที่ยังมีการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้า เช่น ยุโรป อินเดีย เป็นต้น ซึ่งภาพดังกล่าว กดดันให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะขาย หุ้นในกลุ่มCyclical ออกมา อาทิ หุ้นในกลุ่ม Industrial และ หุ้นสายการบินหรือเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยในฝั่งสหรัฐฯ ดัชนีS&P500 ปิดลบราว 0.7% ส่วน ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ก็ย่อลง 0.9% แม้ว่า การปิดรับความเสี่ยงของตลาดจะกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงก็ตาม ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ดิ่งลงราว 2% ท่ามกลางความกังวลปัญหาการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ในยุโรป

ด้านตลาดบอนด์ การปิดรับความเสี่ยงของตลาด ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง  แม้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะยังมีความกังวลแนวโน้มการปรับตัวขึ้นเงินเฟ้อก็ตาม ทำให้บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลงราว 4bps สู่ระดับ 1.56%

ทั้งนี้ แม้ว่าบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวลง แต่ก็ไม่ได้กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะภาพความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะหลบความไม่แน่นอนในหลุมหลบภัย อย่าง เงินดอลลาร์ ทำให้ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) กลับมาแข็งค่าขึ้นกว่า 0.2% สู่ระดับ 91.22 จุด ทำให้สกุลเงินหลักโดยรวมอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยเงินปอนด์ (GBP) อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.394 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ส่วนเงินยูโร(EUR) อ่อนค่าเล็กน้อยสู่ระดับ 1.203 ดอลลาร์ต่อยูโร

ในส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท เราคงมองว่า ในระยะสั้น ค่าเงินบาทยังเผชิญหลายปัจจัยกดดันให้มีโอกาสอ่อนค่ามากกว่าจะแข็งค่า อาทิ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19รอบโลก ที่เริ่มกลับเข้ามากดดันให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเลือกที่จะถือสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง เงินดอลลาร์ เพื่อหลบความผันผวนชั่วคราว หรือแม้กระทั่ง ปัญหาการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ ที่กดดันให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กล้าเข้ามาถือสินทรัพย์เสี่ยงไทยเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์จ่ายปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ เรามองว่าเงินบาทมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบกว้างต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผู้นำเข้าส่วนมากรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าใกล้ระดับ 31.15 บาทต่อดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ส่งออกก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับวันนี้ ปัจจัยที่ตลาดจะยังคงติดตาม คือ 1. รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ซึ่งหากผลประกอบการดีกว่าคาดและมีการปรับประมาณการแนวโน้มผลกำไรในอนาคต ก็อาจจะพอช่วยพยุงบรรยากาศการลงทุนและช่วยให้ตลาดไม่ได้ปรับฐานหนักจากความกังวลปัญหาการระบาด โควิด-19  ได้บ้าง

และ 2. สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ที่เริ่มกลับเข้ามากดดันภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น หลังจากที่หลายประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และยังมีการแจกจ่ายวัคซีนที่น้อย อาทิ อินเดีย แคนาดา กลุ่มประเทศละตินอเมริการวมถึง สหภาพยุโรป ยังคงเผชิญการระบาดที่รุนแรงมากขึ้น