สัญญาณเพื่อไทยแก้ รธน.หวังผล ส่งทุกเขต ‘เก็บทุกแต้ม’

สัญญาณเพื่อไทยแก้ รธน.หวังผล  ส่งทุกเขต ‘เก็บทุกแต้ม’

จะด้วยการ “อ่านเกม” หรือจะมี “บิ๊กดีล” ก็แล้วแต่ เพื่อไทยคงประเมินแล้วว่า โอกาสกลับไปใช้บัตร 2 ใบมีโอกาสเป็นไปได้สูง พรรคจึงเลือกเดินยุทธศาสตร์ “ส่งทุกเขตเก็บทุกแต้ม”

ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่กำลังหยุดชะงักจากสภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทว่าเวลานี้กลับปรากฎภาพของบรรดาพรรคการเมืองกลุ่มการเมืองในการก่อร่างสร้างพรรค การแตกแบงค์พัน ผุดพรรคสาขา รวมถึงการจัดทัพพรรคที่มีอยู่เดิมเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในห้วงเวลาอีกไม่นานนี้

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ “สมพงษ์  อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรค ได้ลงนาม คำสั่งพรรคเพื่อไทย ที่ 0001/2564 แต่งตั้ง “คณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้ง”  

เนื้อหาตอนหนึ่งระบุอย่างชัดเจนว่า “พรรคมีเป้าหมายส่งผู้สมัคร ส.ส.ครั้งต่อไปทั้ง 350 เขต สมควรต้องให้ความสำคัญดูแลพื้นที่และฐานเสียงพรรคต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจความสัมพันธ์อันดี” เป็นการตอกย้ำการเดินยุทธศาสตร์ “ส่งทุกเขตเก็บทุกแต้ม” 

ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562  พรรคเพื่อไทยเลือกที่จะเล่นบทแตกแบงค์พัน “แยกกันเดินร่วมกันตี” แบ่งแต้มส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคไทยรักษาชาติ” แต่ทว่าพรรคกลับต้องเผชิญกับอุบัติเหตุการเมืองคือ ไทยรักษาชาติถูกยุบ

ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยที่แม้จะหอบ ส.ส.พาเหรดเข้าสภาได้มากที่สุด แต่ก็ไร้ซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ บรรดาแกนนำพรรคต่างตกงานชนิดไร้พาวเวอร์ในการคุมเกมสภา มิหนำซ้ำยังไม่สามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้

ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่ครั้งนี้เพื่อไทยจะเลือกเดินยุทธศาสตร์ “ส่งทุกเขตเก็บทุกแต้ม” สอดรับกับการเสนอแก้รัฐธรรนูญกลับไปใช้บัตร 2 ใบ ซึ่งพรรคพยายามหยิบเรื่องนี้เป็นตัวชูโรงเรื่องแรก และเวลานี้เพื่อไทยก็ไม่ได้แค่มีแนวร่วมจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีพรรครัฐบาลไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ หรือชาติไทยพัฒนา