40 บริษัท ลุ้นรัฐไฟเขียวนำเข้า พร้อมซื้อ 'วัคซีน' ทันที 1 ล้านโดส

40 บริษัท ลุ้นรัฐไฟเขียวนำเข้า พร้อมซื้อ 'วัคซีน' ทันที 1 ล้านโดส

หอการค้า เผย 40 บริษัท พร้อมซื้อวัคซีน 1 ล้านโดส เล็งจาก 4 ประเทศ รอรัฐบาลไฟเขียวให้เอกชนนำเข้า

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยหารือกับ CEO บริษัทใหญ่ 40 แห่ง ผ่านระบบประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2564 เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาคเอกชนและการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เพียงพอ 

สำหรับซีอีโอที่ร่วมประชุมครั้งนี้ เช่น นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ,นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ,นางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด 'นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ,นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี

ทั้งนี้ จากการหารือ 40 บริษัท พร้อมซื้อวัคซีน 1 ล้านโดส จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองเพื่อฉีดให้พนักงานและครอบครัว 5 แสนคน และยังมีภาคเอกชนแจ้งความจำนงต้องการซื้อวัคซีนเองอีก 10 ล้านโดส

ดังนั้นหอการค้าไทยจะเป็นศูนย์กลางประสานผู้ที่ต้องการซื้อวัคซีนทางเลือก โดยมีนายกลินท์ สารสิน อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทย และ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ทำงานร่วมกับคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนทางเลือกป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

ส่วนการดูแลวัคซีนเมื่อซื้อมาแล้วไม่ต้องกังวล เพราะเอกชนพร้อมดูแลและกระจายวัคซีน โดยสนับสนุนสถานที่ บุคลากร ระบบขนส่ง ระบบเทคโนโลยี เพื่อให้ทุกจังหวัดฉีดได้ แต่เรื่องเร่งด่วน คือ การหาวัคซีนเนื่องจากไทยฉีดวัคซีนเพียง 0.4% ของประชากร ล่าช้ามาก ซึ่งถ้าจะเปิดประเทศต้องฉีดให้ได้ 70% ของประชากร

สำหรับวัคซีนทางเลือกมาจากผู้ผลิต 6 ราย ใน 4 ประเทศ คือ 

1.สหรัฐ วัคซีน Moderna และ Pfizer

2.จีน วัคซีน Sinopharm และ CanSino Biologics

3.อินเดีย วัคซีน COVAXIN จากบริษัท Bharat Biotech 

4.รัสเซีย วัคซีน Sputnik V

โดยทั้งหมดสมาคมโรงพยาบาลเอกชนประสานการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกได้ และหอการค้าไทยได้รับการประสานจากจีนที่ผลิตวัคซีน Sinopharm หากรัฐอนุญาตให้นำเข้าก็พร้อมส่งวัคซีนมาใน 2 อาทิตย์ และในระยะต่อไปอีก 2-3 เดือน จะจัดหาได้ 10 ล้านโดส

รวมทั้งหากรัฐไฟเขียวซื้อวัคซีนทางเลือกได้ ภาคเอกชนซื้อได้ทันที 1 ล้านโดส โดยมีรัฐเป็นผู้ดำเนินการซื้อเพราะเป็นวัคซีนภายใต้การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน EUA (Emergency Use Authorization) ซึ่งรัฐบาลแต่ละประเทศต้องรับผิดชอบและบริษัทผู้ผลิตไม่เจรจากับภาคเอกชน และไม่รับผิดชอบกรณีเกิดอาการแทรกซ้อน และอีกแนวทาง คือ รัฐบาลออกใบรับรองการซื้อวัคซีนให้โรงพยาบาลเอกชนเพื่อนำไปซื้อวัคซีนทางเลือกจากประเทศที่ผลิตวัคซีน

นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าไทยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2564 ต้องบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ 70% โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในกรุงเทพฯ ต้องได้รับการฉีด 100% ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ต้องให้ได้อย่างน้อย 50,000 โดสต่อวัน โดยภาคเอกชนจะเข้ามาเสริมการทำงานของภาครัฐเพื่อให้ได้เป้าหมายดังกล่าว

“ต้องขอบคุณนายกฯที่โพสต์เฟสบุ๊กสนใจผลประชุมหอการค้าไทยกับ 40 ซีอีโอ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมแผนเสนอนายกฯ รับทราบ โดยซีอีโอทุกบริษัทพร้อมช่วยภาครัฐและทางหอการค้าไทยพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการ Connect the dots เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ” นายสนั่น กล่าว