ยังมองภาพรวมการลงทุนเป็นบวกแม้อาจมีแรงขายทำกำไรสลับ

ยังมองภาพรวมการลงทุนเป็นบวกแม้อาจมีแรงขายทำกำไรสลับ

ยังให้น้ำหนักกับผลประกอบการแม้อาจมีการหมุนหุ้นบ้าง

ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ มีแรงขายทำกำไรสลับ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี และเซมิคอนดัคเตอร์ที่ปรับขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเชิงกายภาพ รวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ ยังเคลื่อนไหวได้ดีหรือมีความผันผวนต่ำกว่า ภาพรวมเรายังให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของผลประกอบการไตรมาส 1/64 ที่จะช่วยลดความตึงตัวของ Valuation ของตลาดหุ้นทั่วโลก แม้อาจมีแรงขายทำกำไรสลับ หรือการหมุนกลุ่มเกิดขึ้นบ้างก็ตาม

ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลบวกต่อกลุ่มอาหารและเกษตร แม้จะเกิดปัญหาติดขัดในเส้นทางผ่านคลองสุเอซจนทำให้ค่าระวางเรือสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่การส่งออกสินค้าอาหารและเกษตรส่วนใหญ่ของไทยมีตลาดหลักคือจีนและภูมิภาคเอเชีย ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก อีกทั้งคาดว่าจะได้อนิสงค์จากเงินบาทที่อ่อนค่า และการเร่งนำเข้าในช่วงต้นปีหลังปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนบรรเทาลง ส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร ได้แก่ CPF, TU, TWPC ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามตัวเลขส่งออกและการแถลงข่าวของกระทรวงพาณิชย์ 22 เม.ย.64

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back รวมถึง Asset warehousing เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, TISCO 2) กลุ่มการแพทย์ BCH, CHG 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) Re-rating PTG 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 7) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, TOP ส่วน SCC ยังขึ้นน้อยที่สุดใน 1 ปี ที่ผ่านมา 8) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP 9) การขายประกันโควิด บวกต่อหุ้นประกัน THRE, TIP, TQM

ภาพรวมกลยุทธ์ อ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อ แนวรับ 1,565 จุด แม้ระยะสั้นอาจผันผวนจากความกังวลการระบาดระลอกใหม่ แต่ยังมองหลังสงกรานต์ฟื้นตัวจากผลประกอบการไตรมาส 1/64 เน้นเลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, IRPC*, PTG*, WHAUP*

แนวรับ 1,565 / แนวต้าน : 1,580-1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

คลังเตรียมชง ครม.ต่อเวลา เราชนะ ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. สศค.เผยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ผลกระทบเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ว่าจำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมออกมาในช่วงใดพร้อมระบุเหลืองบประมาณอีกราว 3.8 แสนล้านบาท นอกจากนี้กระทรวงการคลังเตรียมเสนอขยายเวลามาตรการ เราชนะออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุด 31 พ.ค. 64

ธปท.เปิดให้แบงก์ยื่กู้ภายใต้สินเชื่อฟื้นฟูผลกระทบโควิด-19 ได้ตั้งแต่ 26 เม.ย. เป็นต้นไป. ธปท.ได้ออกประกาศจำนวน 2 ฉบับเพื่อกำหนดขอบเขตคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจที่สามารถเข้าร่วมโครงการ โดยสถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอกู้เงินจาก ธปท. ตามมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อฟื้นฟูและโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

กระทรวงการคลังจะแถลงปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 รอบใหม่ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8% แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ในช่วงเดือนเม.ย. ซึ่งกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายภาคส่วน ทำให้กระทรวงการคลังต้องปรับสมมติฐานการขยายตัวใหม่

JKN ประกาศแผนลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ เข้าซื้อกิจการช่อง NEW18 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น JKN18 ชูกลยุทธ์ ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง สร้างกระแสผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรสกัดผสมวิตามิน พร้อมก้าวสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชง วางเป้าหมาย 3 ปี ผลักดันรายได้เติบโตสู่ 5,000 ล้านบาท

SAAM - ตลท. สั่ง SAAM ใช้เกณฑ์ ระดับ 2 : ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance มีผล 20 เม.ย. 2564 - 10 พ.ค. 64

TISCO. กำไรไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 1,764 ล้านบาท โต 18.7% yoy จาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักโดยมีฐานเงินสำรองสูงถึง 222%  ระดับ NPL ที่ทรงตัวที่ 2.5%

ประเด็นติดตาม: - 22 เม.ย. : ECB Meeting, 23 เม.ย. : US Manufacturing PMI เดือน เม.ย. / EU Manufacturing PMI เดือน เม.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)