บีจีเอสอาร์ลุยระบบทางด่วน

บีจีเอสอาร์ลุยระบบทางด่วน

“บีจีเอสอาร์” พร้อมลงทุนระบบโอแอนด์เอ็มมอเตอร์เวย์ 2 สาย ปั้นด่านเก็บค่าผ่านทางไร้ไม้กั้น ด้าน ทล.ปรับแผนลงนามสัญญาพร้อมกัน 2 โครงการ สายบางปะอิน - โคราช และบางใหญ่ - กาญจนบุรี ภายใน มิ.ย.นี้ หลังเคลียร์ปมแบบก่อสร้าง ปรับเพิ่มงบ 6.8 พันล้าน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์โดยระบุว่า ในฐานะเอกชนผู้ยื่นเสนอผลตอบแทนรัฐสูงสุดในโครงการร่วมลงทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทั้งสายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงินรวม 6.1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันเตรียมความพร้อมในการลงนามสัญญาร่วมลงทุนแล้ว คาดว่าจะมีการลงนามในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน ยังมีการเจรจากับผู้รับเหมาในการเข้ามารับช่วงงานก่อสร้าง เพื่อเร่งผลักดันให้โครงการสร้างด่านเก็บค่าผ่านทาง และติดตั้งระบบทั้งหมดแล้วเสร็จตามกำหนด

ในส่วนของโครงการโอแอนด์เอ็มมอเตอร์เวย์ทั้งสองโครงการนี้ ถือเป็นโครงการมอเตอร์เวย์เส้นทางภูมิภาคโครงการแรกที่กรมทางหลวง (ทล.) เปิดให้เอกชนเข้าไปบริหารในรูปแบบพีพีพี ทางกลุ่มบีจีเอสอาร์ได้นำเสนอการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ลดการจราจรแออัดหน้าด่าน ตลอดจนพัฒนาด่านจัดเก็บค่าผ่านทางให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี โดยเบื้องต้นจะติดตั้งระบบยกเลิกไม้กั้นส่วนของด่านขาเข้า หลังจากนั้นหากมีกฎหมายรองรับที่สามารถเก็บข้อมูลทะเบียนรถยนต์และเรียกเก็บเงินย้อนหลังได้ จะมีการพัฒนายกเลิกไม้กั้นทั้งขาเข้าและขาออก

แหล่งข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ขณะนี้ ทล.อยู่ระหว่างทำร่างสัญญาเพื่อเตรียมลงนามสัญญากับเอกชน พ.ค.- มิ.ย.นี้ โดยอยู่ระหว่างจัดทำแผนส่งมอบพื้นที่ เพื่อนำไปกำหนดให้ชัดเจนในสัญญา เนื่องจากการพัฒนาระบบโอแอนด์เอ็ม จะต้องดำเนินการภายหลังงานโยธาแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ ทล.มีการปรับแบบก่อสร้างบางช่วง จึงมีความจำเป็นต้องทยอยส่งมอบพื้นที่ ทั้งนี้การลงนามพีพีพีที่ล่าช้าดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการประมูล เนื่องจากเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ กลุ่มบีจีเอสอาร์ได้ขยายเวลายืนราคาถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

“ตอนนี้เราประเมินแล้วว่า ทั้งสองโครงการมีไทม์ไลน์งานก่อสร้างที่ใกล้เคียงกัน ไม่ได้ล่าช้ากว่ากันมาก ดังนั้นจะปรับแผนจากเดิมแยกลงนามสัญญาเฉพาะช่วงบางใหญ่ - กาญจนบุรีก่อน ก็จะปรับเป็นลงนามสัญญาพร้อมกันทั้งสองสายทาง เพื่อเร่งรัดให้เอกชนก่อสร้างและติดตั้งระบบทันเปิดใช้ในปี 2566”

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ทล.มีแผนจะแยกลงนามสัญญาโครงการโอแอนด์เอ็มออกเป็นสองช่วง โดยจะลงนามเฉพาะสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี เนื่องจากไม่มีปัญหาการส่งมอบพื้นที่ ส่วนสายบางปะอิน – นครราชสีมา มีการปรับแบบก่อสร้าง 17 ตอน จากทั้งหมด 40 ตอน และยังอยู่ระหว่างเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่มกรอบวงเงินไม่เกิน 6.8 พันล้านบาท ทำให้ยังไม่สามารถลงนามสัญญาได้

แต่เนื่องจากขณะนี้ ทล.ได้สรุปรายละเอียดการปรับแบบและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่าภายในเดือน เม.ย.นี้ กระทรวงฯ จะพิจารณาแล้วเสร็จ และมีการเสนอ ครม.ภายใน พ.ค.นี้ ดังนั้น ทล.จึงปรับแผนลงนามสัญญาโอแอนด์เอ็มพร้อมกัน เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างและติดตั้งระบบ

ทั้งนี้ ปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธา มอเตอร์เวย์สาย บางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 40 ตอน ในภาพรวม มีความคืบหน้า 96.72% โดยมี 20 ตอนที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ส่วนมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีงานโยธา 25 ตอน ขณะนี้มีความก้าวหน้า 52% คาดว่างานโยธาจะแล้วเสร็จเดือน เม.ย. 2566 โดยทั้งสองโครงการจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566 – 2567