เปิดประเทศ(นำร่อง)'ไม่กักตัว': ฉีด'วัคซีนโควิด'แล้ว มีชัยไปกว่าครึ่ง

เปิดประเทศ(นำร่อง)'ไม่กักตัว': ฉีด'วัคซีนโควิด'แล้ว มีชัยไปกว่าครึ่ง

บางประเทศ ถ้ามีหลักฐานใบรับรองว่าฉีด"วัคซีนโควิด"แล้ว และตรวจสอบได้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการกักตัว แต่หลายประเทศไม่เป็นเช่นนั้น ลองดูตัวอย่างประเทศนำร่อง

ในช่วงไวรัสโควิดยังแพร่ระบาดอยู่ ประเทศที่ฉีด"วัคซีนโควิด"ให้ประชากรเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ หากคนเหล่านั้นมีภูมิคุ้มกันและควบคุมการแพร่เชื้อได้แล้ว การเปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้า จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนและตรวจสอบได้ นั่นทำให้หลายประเทศอนุญาติให้คนต่างชาติเข้าออกประเทศได้โดยไม่กักตัว

 

มาตรการเปิดประเทศ

วัคซีนพาสปอร์ตและใบรับรองการฉีดวัคซีน จะเป็นกลไกสำคัญในการเดินทางระหว่างประเทศ โดยในเอกสารจะระบุ ข้อมูลส่วนตัวและ"ชนิดของวัคซีนที่ฉีด" วันเดือนปีที่ฉีดวัคซีน วันหมดอายุของวัคซีน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ต้องตรวจสอบได้

เรื่องนี้ เปมิกา ลุสนานนท์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและดูแลคนไทย สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีเสวนา เส้นทางจุดที่ 1 เปิดประเทศด้วย vaccine passport ? ว่า ตอนนี้รวบรวมมาตรฐานใบรับรองการฉีดวัคซีนกว่า 50 ประเทศมาศึกษา

“หลักการทั่วไปคือ ต้องมีชื่อวัคซีนที่ฉีด ตรวจสอบได้ มีหลักฐานพร้อม ก็จะถูกกักตัวประมาณ 7 วัน ถ้าเดินทางมาจากประเทศที่มีไวรัสกลายพันธุ์แพร่ระบาด ต้องกักตัว  14 วัน”

161882441260

(วัคซีนที่รอคอย)

นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดและไม่เปิดประเทศ รวมถึงมาตรการกักตัวในช่วงโควิดระบาด(ข้อมูลเดือนเมษายน 2564) 

-ประเทศที่ไม่อนุญาติให้คนต่างชาติเข้าประเทศเลย มีดังนี้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน และสิงคโปร์

-ประเทศที่ให้ต่างชาติเดินทางมาได้ แต่ต้องกักตัว แม้จะมีใบรับรองการฉีดวัคซีน มีดังนี้ อเมริกามีมาตรการกักตัว 7 วัน ,จีน ญี่ปุ่น มีมาตรการกักตัว 14  วัน และอังกฤษมีมาตรการ 10 วัน

-ประเทศที่อนุญาติให้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วมีหลักฐานครบ เข้าประเทศได้ โดยไม่กักตัวเลย อาทิ เซเชลส์,จอร์เจีย โรมาเนีย

-ประเทศที่อนุญาติให้คนต่างชาติที่มีผลการตรวจไวรัสโควิดเป็นลบ เข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว อาทิ มัลดีฟส์ และบาห์เรน

ส่วนมาตรการของประเทศไทย เธอบอกว่า คนต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย เรายอมรับวัคซีนโควิด 8 ชนิด เพื่อลดระยะเวลาการกักตัวเหลือแค่ 7 วัน แต่ต้องฉีดวัคซีนให้ครบสองโดส

“ทุกประเทศไม่ได้ยอมรับวัคซีนทุกตัวที่ฉีด ถ้าเปิดประเทศจริงๆ คงต้องดูเพิ่มตั้งแต่ วันเดือนปีที่ฉีดวัคซีน วันหมดอายุของวัคซีน ปกติวัคซีนมีระยะเวลาคุ้มครองป้องกันช่วง 6 เดือน”

 

เส้นบางๆ เรื่องความเหลื่อมล้ำ

ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว มีมาตรการกระตุ้นให้ประชากรฉีดวัคซีนให้มากที่สุด แต่ประเทศด้อยพัฒนาไม่มีวัคซีนจะฉีด แม้จะเป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา แต่ยังเกี่ยวโยงกับการบริหารจัดการของรัฐบาลด้วย

ดร.นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP -Health Intervention and Technology Assessment Program) หน่วยงานที่จัดเสวนา กล่าวว่า  บางประเทศที่มีการใช้วัคซีนพาสปอร์ตแล้ว ยังมีกุศโลบายกระตุ้นให้คนในประเทศฉีดวัคซีนมากที่สุด เพื่อจะได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคนฉีดวัคซีนแล้ว

“ในเนเธอร์แลนด์ อนุญาติเฉพาะคนที่ได้รับวัคซีนพาสปอร์ตเข้าชมคอนเสิร์ตใหญ่ เพื่อกระตุ้นว่า ในอนาคตรัฐจะมีเงื่อนไขแบบนี้ในการจัดการเรื่องนี้ “

นอกจากนี้คุณหมอยศ บอกว่า เรื่องการฉีดวัคซีนต้องพิจารณาให้ดี ไม่สร้างเงื่อนไขนี้ จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ

“ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกที่มาจากอาฟริกาบอกว่า วัคซีนโควิดแสดงถึงความล้มเหลวทางจริยธรรมและมนุษย์ธรรมของคนทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศซื้อวัคซีนมากกว่าจำนวนประชากรที่มีอยู่ ประเทศที่มีกำลังซื้อน้อยกว่า ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้

ผมอยากตั้งคำถามอีกว่า ในอนาคต หากการสมัครเข้าทำงาน มีเงื่อนไขว่า ผู้สมัครต้องฉีดวัคซีนโควิดแล้ว จะเป็นอย่างไร...ถ้าตอนนั้นคนไทยหนึ่งล้านคนได้วัคซีนแล้ว ก็จะเป็นคนที่ได้สิทธิประโยชน์และโอกาสการหางานดีๆ มากกว่า จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ

ส่วนคนมีเงินก็จะพยายามซื้อวัคซีนราคาแพงมาฉีด ทั้งๆ ที่รัฐบาลยืนยันว่าฉีดวัคซีนให้ฟรีทุกคน ถ้าวัคซีนอยู่ในภาคเอกชนแล้วใช้เงินซื้อได้ จะเป็นอีกแบบ ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย”

 

ฉีดวัคซีนแล้ว ดีอย่างไร

คนอิสราเอลที่ได้รับวัคซีนแล้ว  80 เปอร์เซ็นต์ มีสถิติตัวเลขยืนยันว่า การระบาดของไวรัสโควิดน้อยลง การเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลแทบจะไม่มี เรื่องนี้ คุณหมอยศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเลือกใช้วัคซีนไฟเซอร์ฉีดให้ประชากร และตอนนี้อนุญาติให้ใช้โมบายแอพฯ วัคซีน เป็นเสมือนกรีนพาส ใช้ในภัตตาคาร โรงแรม ได้

"ที่อิสราเอลกำลังทำเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศกรีซและไซปรัส คนอิสราเอลที่มีฐานะชอบไปพักร้อนในประเทศเหล่านี้ ยังไม่มีข้อตกลงเป็นทางการ แต่มีแนวโน้มว่าคนอิสราเอลจะสามารถเดินทางไปประเทศเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องกักตัว

ส่วนในยุโรป มีแอลเบเนีย ,เบลารุสและรัสเซีย สามประเทศ ซึ่งเคยเป็นประเทศรัสเซียเก่า ระบบคล้ายๆ กัน กำลังจะทำข้อตกลงนำร่องสำหรับการประเทศในยุโรปทั้งหมดเรื่องไม่ต้องกักตัว ถ้ามีหลักฐานยืนยันว่า ฉีดวัคซีนแล้ว"

161882446254

(วัคซีนของโมเดอร์น่า) 

“ส่วนอเมริกา เศรษฐกิจดี ไม่จำเป็นต้องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เพราะพึ่งพาการท่องเที่ยวน้อย และมีบางกลุ่มต่อต้านไม่รับวัคซีน เพราะเขาคิดว่าเป็นสิทธิในการตัดสินใจ จึงยังไม่ผลักดันเรื่องนี้ ผมเชื่อว่า ถ้าประเทศนำร่องเปิดประเทศโดยไม่กักตัวได้ คงมีประเทศอื่นคล้อยตาม อิสราเอลก็ทำได้แล้ว

หน่วยงานเราก็ได้ทุนทำเรื่องนโยบายหลังการให้วัคซีน เราถามเพื่อนในอาเซียนสิบประเทศ วิจัยร่วมกันหาข้อสรุปร่วมกันทางวิทยาศาสตร์ว่า ถ้าเรามีวัคซีนพาสปอร์ต จะลดการกักตัวเหลือกี่วัน หลายประเทศมีความต้องการทำข้อมูลเพื่อใช้เชิงนโยบาย”

วิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ได้

วิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เมื่อ ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว จะต้องมี 3 ข้อคือ

1 ป้องกันไม่ให้รับเชื้อโรคและเจ็บป่วย

2 ถ้าติดเชื้อแล้ว ต้องป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้คนอื่น

3 ลดความเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต

คุณหมอยศ บอกว่า วัคซีนโควิดที่มีอยู่ในท้องตลาด ตอนนี้จะป้องกันแบบที่สามได้ บริษัทยาจะขอขึ้นทะเบียนโดยการพิสูจน์ว่า รับเชื้อมาแล้วไม่ป่วย หรือป่วยแล้วไม่แพร่เชื่อให้คนอื่น เป็นการวิจัยที่ง่ายกว่าแบบที่ 1 และแบบที่ 2

“มีข้อมูลชัดเจนว่า ถ้าวัคซีนโควิดมีคุณสมบัติอยู่ในแบบที่ 1และ 2 จะมีประโยชน์มากในการลดการกักตัว ตอนนี้มีข้อมูลเฉพาะวัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตร้าซิเนก้า ส่วนวัคซีนซิโนแวคยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่การไม่มีข้อมูลไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ อาจมีในอนาคต หรือเมื่อในประเทศไทยฉีดวัคซีนซิโนแวคให้ประชากรเยอะมากจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ก็จะพิสูจน์ได้

161882452580

(อิสราเอลกับการฉีดวัคซีน)

ถ้าใช้วัคซีนตัวที่พิสูจน์ได้ว่า อยู่ในแบบที่ 1 และ2 ลดการติดเชื้อ ลดการแพร่เชื้อ การกักตัวน่าจะลดจำนวนวัน”

นอกจากนี้คุณหมอยศ สรุปว่า การทำวิจัยร่วมกันสิบประเทศในเรื่องวัคซีน เรามีข้อสรุปอย่างหนึ่ง คือ เราหวังว่านโยบายวัคซีนพาสปอร์ตจะเป็นนโยบายระยะสั้น

“ถ้าเมื่อใดคนทั้งโลกได้รับวัคซีนแล้ว หรือโรคนี้กลายเป็นโรคประจำท้องถิ่นไม่น่ากลัวอย่างที่เคยเป็น เราก็ไม่จำเป็นต้องมีนโยบายวัคซีนพาสปอร์ต มันเป็นแค่ระยะเปลี่ยนผ่าน”