'ซิตี้กรุ๊ป'เผยกำไรไตรมาส1/64 สูงกว่าคาด

'ซิตี้กรุ๊ป'เผยกำไรไตรมาส1/64 สูงกว่าคาด

'ซิตี้กรุ๊ป' เผยกำไรไตรมาส1/64 สูงกว่าคาด ขณะรายได้ด้านวาณิชธนกิจพุ่งแรง

ธนาคารซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า ธนาคารมีกำไร 7.94 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.62 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 2.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ 1.93 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์

ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจและการซื้อขายหลักทรัพย์สูงเป็นประวัติการณ์ โดยรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 1.48 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 300 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้อยู่ที่ 4.55 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 100 ล้านดอลลาร์

ส่วนรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจพุ่งขึ้น 46% แตะที่ 1.97 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์อยู่ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารมีรายได้จากการทำอันเดอร์ไรท์หลักทรัพย์ในช่วงที่มีการจัดตั้งบริษัท SPAC (Special Purpose Acquisition Company) จำนวนมากโดย SPAC เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการควบรวมกิจการโดยเฉพาะ

ในการแถลงผลประกอบการ ซึ่งมีขึ้นในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ (15 เม.ย.) นั้น ซิตี้กรุ๊ปยังได้ประกาศแผนที่จะยุติการดำเนินธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) ใน 13 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดย 13 ประเทศดังกล่าวได้แก่ไทย, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, จีน อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, รัสเซีย, ไต้หวัน และเวียดนาม

นางเฟรเซอร์กล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปจะยุติธุรกิจลูกค้ารายย่อยใน 13 ประเทศข้างต้น และจะดำเนินธุรกิจดังกล่าวจากศูนย์กลางการเงิน 4 แห่งแทนซึ่งได้แก่สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลอนดอนซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละภูมิภาค โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนกลยุทธ์การดำเนินงานของธนาคาร

"การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ซิตี้มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจจากธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่งผ่านทางศูนย์กลางทางการเงินทั้ง 4 แห่งดังกล่าว" นางเฟรเซอร์กล่าว