'กลาโหม'เร่งจัดตั้ง'รพ.สนาม'เพิ่มหลังเปิดค่ายรองรับแล้วกว่า 5 พันเตียง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคลรมช.กลาโหม และได้ประชุมร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ กอ.รมน.และ

ตำรวจ ผ่านระบบประชุมทางไกล

ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม ที่กลาโหมจัดตั้งขึ้นเร่งด่วน

โดยภาพรวมปัจจุบันกลาโหมร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุขกำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเร่งจัดตั้งและเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ ทั้งการสนับสนุนยานพาหนะกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์กับส่วนราชการในพื้นที่ จัดตั้งเป็น โรงพยาบาลสนาม และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในหน่วยทหาร จำนวน 24 แห่ง  5,341 เตียง โดยมีศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.กองทัพไทย) เป็นหน่วยประสานกับส่วนราชการต่างๆ ภายใต้การบริหารจัดการภาพรวมโดยสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของCOVID-19 ที่กระจายเป็นวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

สำหรับในพื้นที่ชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน ยังคงความเข้มข้นเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซึ่งพบสถิติสูงขึ้น จากความรุนแรงในเมียนมา พร้อมกันนี้ กลาโหมโดยทุกเหล่าทัพ ยังคงทำหน้าที่หลักร่วมกับสาธารณสุขในการคัดกรองและบริหารจัดการสถานกักตัวควบคุมโรค ทั้ง SQ และ ASQ จำนวน 161 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค.63 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเดินทางกลับจาก ตปท.ผ่านการกักตัวควบคุมโรคแล้ว 251,023 คน อยู่ระหว่างกักตัว 13,649 คน  พบผู้ติดเชื้อ 1998 ราย

"พล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้แสดงความขอบคุณและห่วงใยการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ตำรวจทุกหน่วยงาน ที่สนับสนุนแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศต่อเนื่องที่ผ่านมาโดย นายกฯ ย้ำขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ระมัดระวังป้องกันตนเองและครอบครัว และขอให้หน่วยต้นสังกัด ได้เสนอความต้องการและเร่งกระจายวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงและในพื้นที่เสี่ยงสูงเป็นลำดับต้นเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน" พล.ท.คงชีพ กล่าว

ขณะเดียวกัน พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งสำรวจความพร้อมของบุคลากรแพทย์ทหารและแพทย์อาสาของกองทัพ เพื่อประเมินความพร้อมในการสนับสนุนและทำงานร่วมกับสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โรงพยาบาลสนาม มีมาตรฐานเทียบเคียงกัน รองรับผู้ป่วยระดับต่ำที่ไม่มีอาการรุนแรงที่มีจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้ทุกเหล่าทัพ เพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันในหน่วยทหารและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ในการปฏิบัติงานที่ร่วมกันลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายโรคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน