โควิดกดดันหุ้นไทยระยะสั้น โบรกฯ ชูกำไรบจ.ไตรมาสแรกฟื้นดัชนี

โควิดกดดันหุ้นไทยระยะสั้น โบรกฯ ชูกำไรบจ.ไตรมาสแรกฟื้นดัชนี

หุ้นไทยดิ่ง 25 จุด “ทิสโก้” คาดช่วงครึ่งหลัง เม.ย.ดัชนีผันผวนขาลง “ยูโอบีฯ” มองเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น  เชื่อกำไร บจ.ไตรมาส 1 โต ช่วยประคองดัชนีฟื้นตัว “เอเซีย พลัส” แนะสะสมหุ้นลงทุนระยะกลางยาว ฝั่งตลาดหลักทรัพย์ฯ แนะประเมินผลกระทบรายกลุ่มก่อนลงทุน

ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (12 เม.ย.2564) ระหว่างวันปรับลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,539.24 จุด หรือลดลง 27.10 จุด ก่อนจะรีบาวด์มาปิดตลาดที่ 1,541.12 จุด ลดลง 25.22 จุด หรือ 1.61%  มูลค่าการซื้อขาย 78,223.59 ล้านบาท กังวลโควิด-19 ระบาดและเป็นช่วงหยุดสงกรานต์

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,317.79 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,519.53 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 765.05 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 5,602.37 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่องจากสาเหตุการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเป็นหลัก หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รวมถึงสัปดาห์นี้ (12-16 เม.ย.) เป็นช่วงวันหยุดยาว ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อดูสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง

161823996564

ทั้งนี้คาดว่าหลังสงกรานต์ (13-15 เม.ย.) ตลาดหุ้นไทยจะยังมีความผันผวนสูง โดยจะต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน รวมถึงมาตรการดูแลของภาครัฐ แต่ประเมินผลจากการแพร่ระบาดรอบใหม่จะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวได้แย่กว่าตลาดหุ้นโลก (Underperform) เช่นเดียวกับการระบาดครั้งที่ผ่านๆ มา

“เราประเมินแนวรับที่ 1,530 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,550-1,555 จุด โดยคาดว่าช่วงที่เหลือของเดือน เม.ย.แนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะผันผวนในทิศทางขาลง แต่มองเป็นจุดน่าเข้าซื้อเก็งกำไร เพราะดัชนีบริเวณ 1,530 จุด จะเข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป (Oversold)"

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นไทยปรับลงแรง มาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่เร่งตัวขึ้น และมีวันหยุดยาวด้วยเช่นกัน จึงขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงออกมา

อย่างไรก็ดี มองสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของเดือน เม.ย. ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งแนวโน้มส่วนใหญ่คาดว่ากำไรจะออกมาดี ดังนั้น ระยะสั้นดัชนีหุ้นจะถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในช่วงปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือน พ.ค.ทิศทางกำไรที่แข็งแกร่งจะช่วงประคองตลาดหุ้น

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นปรับลงตามความกังวลโควิด-19 ในประเทศ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นมา และยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากที่หลายจังหวัดประกาศให้ประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจำเป็นต้องกักตัว โดยคาดว่าจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ และจะส่งผลต่อความเสี่ยงขาลง (ดาวน์ไซด์) ต่อเศรษฐกิจไทย

"สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อหุ้นในช่วงที่ดัชนีย่อตัวเพื่อลงทุนระยะกลางยาว โดยเลือกหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มผลประกอบการเติบโต และราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับขึ้น (อัพไซด์)”

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนมากน้อยแตกต่างกันไป จึงแนะนำนักลงทุนวิเคราะห์ผลกระทบเป็นรายเซกเตอร์ ส่วนในมุมของการดูแลหุ้นในตลาดนั้น ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดรับฟังความเห็นการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลหลังปิดรับฟังความเห็น

ส่วนกรณีการขายหุ้นบิ๊กล็อตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ชี้ว่าเป็นการขายหุ้นเพื่อปรับโครงสร้างของแต่ละ บจ.เท่านั้น และคาดว่าไม่ใช้การกระจายหุ้นเพื่อรองรับเกณฑ์การคำนวณใหม่