สงกรานต์ 2564 ประเพณีนิวนอร์มอล

สงกรานต์ 2564 ประเพณีนิวนอร์มอล

สงกรานต์ 2564 ยังคงอยู่ในบรรยากาศการระบาดของโควิด-19 และดำเนินในลักษณะนิวนอร์มอล จากผลสำรวจทางเศรษฐกิจสะท้อนภาพการใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งสิ่งสำคัญอยู่ที่การฉีดวัคซีนเพื่อควบคุม โดยต้องทำให้ครอบคลุมประชากร 70% ถึงจะฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาโดยเร็ว

เทศกาลสงกรานต์ปี 2564 เป็นอีกครั้งที่อยู่ในบรรยากาศการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเทศกาลสงกรานต์ที่หลายคนคาดหวังได้กลับมาเล่นสงกรานต์อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นสงกรานต์แบบนิวนอร์มอลที่เว้นระยะห่างและเล่นบนเงื่อนไขที่จำกัดมาก

โดยกิจกรรมที่ทำได้ คือ การสรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การเดินทางข้ามจังหวัด แต่จะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด และต้องจัดกิจกรรมในพื้นที่โล่งแจ้งที่อากาศสามารถระบายได้ดี รวมทั้งไม่ควรจัดในห้องปรับอากาศ ในขณะที่สงกรานต์ปี 2563 อยู่ในช่วงล็อกดาวน์และห้ามจัดสิ้นเชิง

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 พบว่าการใช้จ่ายเทศกาลสงกรานต์อยู่ที่ 112,000 ล้านบาท ลดลง 16.6% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปี 2562 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 ที่มีมูลค่าการใช้จ่าย 114,119 ล้านบาท โดยการเปรียบเทียบดังกล่าวไม่รวมปี 2563 ที่รัฐบาลประกาศงดจัดกิจกรรมสงกรานต์ ซึ่งรายงานดังกล่าวสะท้อนถึงภาวะการจับจ่ายใช้สอยในช่วงสงกรานต์ที่ยังไม่ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปีปกติ

สิ่งสำคัญของการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 คือ การฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนครอบคลุม 77 จังหวัด แต่ถ้าดูปริมาณการฉีดวัคซีนถือว่ายังไม่มาก โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขวันที่ 8 เม.ย.2564 มีผู้ได้รับวัคซีนสะสม 466,911 คน แบ่งเป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 405,911 คน และผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 60,463 คน ในขณะที่การฉีดวัคซีนต่อวันทั้งเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 อยู่ที่ประมาณ 70,000 คน เศษ โดยวัคซีนส่วนใหญ่ที่ฉีดอยู่ในปัจจุบันเป็น “ซิโนแวค”

การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะต้องฉีดให้ครอบคลุมประชากร 70% โดยปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนประชากร 69.6 ล้านคน หากต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะต้องฉีดวัคซีนได้อย่างน้อย 40 ล้านคน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการฉีดวัคซีนในปัจจุบันถือว่ายังห่างไกลจากการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้นอกจากการเร่งป้องกันการระบาดโควิดรอบใหม่ที่ต้นตอส่วนหนึ่งมาจากคลัสเตอร์คลับและเลาจน์ นั่นคือการเร่งฉีดวัคซีนให้มีความคืบหน้าเร็วที่สุดให้ได้

ที่ผ่านมามีภาคเอกชนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยพร้อมสนับสนุนเงินจัดซื้อวัคซีนและสนับสนุนทรัพยากร เพื่อฉีดวัคซีนให้ประชาชนและพนักงานของตัวเอง ซึ่งการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นแนวทางสำคัญหลังจากนี้จะที่จะฟื้นความเชื่อมั่นทางสังคมและเศรษฐกิจให้กลับคืนมาเร็วที่สุด ซึ่งคาดหวังว่าเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ประเทศไทยจะกลับมาเล่นน้ำสงกรานต์ได้เหมือนอดีต รวมทั้งจัดกิจกรรมต่อเนื่องของเทศกาลได้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับประเทศ