แม่ฮ่องสอนเตรียมตั้งรพ.สนาม-ผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง

แม่ฮ่องสอนเตรียมตั้งรพ.สนาม-ผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง

แม่ฮ่องสอนตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 5 ราย รวมยอดสะสมเป็น 13 ราย เตรียมตั้งจัดโรงพยาบาลสนามรองรับ กำชับมาจาก 6 จังหวัด "กรุงเทพฯ -สมุทรปราการ-นนทบุรี-นครปฐม-ปทุมธานี-เชียงใหม่"ต้องกักตัว14วัน

วันที่ 12 เมษายน 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวว่าตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ หรือรอบเมษายน 2564 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า เริ่มพบผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 11 เมษายน 2564 รวม 8 รายนั้น ล่าสุดวันที่ 12 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีกจำนวน 5 ราย รวมเป็น 13 ราย ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง 6 ราย อำเภอสบเมย 4 ราย อำเภอเมือง 1 ราย อำเภอขุนยวม 1 ราย และปางมะผ้า 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 13 ราย เป็นเพศชาย 8 ราย เพศหญิง 5 ราย

161821952146

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 13 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่พบรายใหม่ 5 ราย นั้น 1 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด คือ เป็นคุณตาของผู้ป่วยรายแรก (อำภอสบเมย) อีก 3 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยรายที่ 7 (อำเภอแม่สะเรียง) ที่ได้แจ้งไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยอำเภอปางมะผ้า ที่มีประวัติการไปเที่ยวสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ

สำหรับมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้ดำเนินการไปแล้วได้แก่การดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งได้มีการรับการรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 3 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 6 ราย และโรงพยาบาลสบเมย 4 ราย ซึ่งศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลในจังหวัด สามารถรองรับได้ 66 ราย ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 53 ราย

161821953897

อย่างไรก็ตาม ตามแผนเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขของจังหวัด เมื่อพบผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่ 10 รายขึ้นไป จะต้องมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น ซึ่งได้ประสานงานเรื่องการจัดเตรียมสถานที่ คือโรงยิมของสนามกีฬากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเริ่มดำเนินการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ตามรายการที่กำหนด ตลอดจนจัดเตรียมบุคลากรที่จะปฏิบัติงานไว้พร้อมแล้ว โดยในเบื้องต้นจะให้สามารถรองรับผู้ป่วย 40 ราย และขยายเพิ่มได้มากถึง 120 ราย

ส่วนศักยภาพของการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วันนี้รถแล็ปพระราชทานที่มาประจำ การอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ได้ถูกเรียกกลับไปปฏิบัติงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการนำส่งตัวอย่างตรวจจากอำเภอสายใต้ อาจมีความล่าช้ามากว่าครั้งที่ผ่านมา สำหรับห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลศรีสังวาลย์สามารถรองรับการตรวจได้วันละประมาณ 200 ราย โดยขณะนี้ยอดคงคลังของชุดตรวจ PCR COVID-19 ยังคงเหลืออยู่ในคลัง 960 ชุด

ด้านการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเพิ่มเติม รายที่1-8 มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรวม 142 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 90 ราย เสี่ยงต่ำ 52 ราย มีผู้สัมผัสที่ได้รับการตรวจทั้งหมด 84 ราย ผลพบเชื้อ 6 ราย สำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วยที่พบรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 5 ราย ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม จึงขอให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยตามไทม์ไลน์ดังที่ได้แจ้งไปแล้วนั้น หากพบว่าได้มีการพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที หรืออยู่ในสถานที่ปิด มีเครื่องปรับอากาศ ร่วมกันนานกว่า 15 นาที ถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ให้รีบมารับการตรวจยังโรงพยาบาลในพี้นที่และให้แยกกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน สังเกตอาการ หากพบว่ามีไข้ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือมีอาการไม่สบาย ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้รีบโทรแจ้งโรงพยาบาล ในพื้นที่ หรือโทรแจ้ง 1669

161821955892

อย่างไรก็ดี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น ๆ โดยทางจังหวัดได้มีการออกคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานีและ เชียงใหม่ ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือ อสม.ในหมู่บ้านและเฝ้าระวังตนเองหลีกเลี่ยงการเข้าชุมชนและพื้นที่หนาแน่นเป็นเวลา14 วัน

ขณะที่ การจัดงานประเพณีต่าง ๆ หากหลีกเลี่ยง หรืองดได้ก็จะเป็นการดีที่สุด แต่หากยังมีความจำเป็นจะต้องจัดงาน เนื่องจากมีการตระเตรียมการไว้แล้ว ขอความร่วมมือให้เข้มงวดดำเนินการตามมาตรการ ด้านสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การจัดกิจกรรมสงกรานต์ให้เน้นเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี ให้จัด ในพื้นที่โล่งแจ้ง งดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเล่นสาดน้ำ หรือสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด งดการประแป้ง งดการเล่นปาร์ตี้โฟม งดการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในที่สาธารณะตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 การจัดพิธีรดน้ำดำหัว หลีกเลี่ยงการจัดในที่คับแคบ หรือในพื้นที่ห้องปรับอากาศ

โดยกำหนดจำนวนของผู้เข้าร่วมงานของสถานที่ 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตรและการรดน้ำให้มีการเรียงแถวรดน้ำ เว้นระยะห่างกัน 1 เมตรและให้สวมหน้ากากอนามัยทุกคน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกัน เป็นเวลานาน จึงขอความร่วมมือ ให้พี่น้องประชาชน ดำเนินการตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ สถานที่เสี่ยงในระยะนี้และหากมีอาการสงสัย ให้โทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทุกสถานบริการ