‘ผู้นำประเทศทั่วโลก’ อาลัย ‘เจ้าชายฟิลิป’ สิ้นพระชนม์

บรรดาผู้นำประเทศทั่วโลก ได้แสดงความไว้อาลัย “เจ้าชายฟิลิป” พระราชสวามีของ “ควีนเอลิซาเบธ” และเป็นบุคคลสำคัญในราชวงศ์อังกฤษ มาเกือบ 7 ทศวรรษ สิ้นพระชนม์ ขณะพระชนมายุ 99 พรรษา

*นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ

"ประชาชนอังกฤษจะรำลึกถึงทุกการสนับสนุนของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ ไม่เพียงในฐานะพระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ทรงยืนเคียงข้างกันตลอดการครองราชย์ แต่รวมถึงเป็นพระราชสวามีที่ทรงเข้มแข็งตลอดระยะเวลานานกว่า 70 ปี เปรียบได้กับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ช่วยดูแลราชวงศ์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สถาบันยังคงมีความสำคัญต่อความสมดุลและชีวิตความสุขของคนในชาติ โดยปราศจากคำโต้แย้งใดๆ" 

*ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ

"ตลอดพระชนมายุ 99 พรรษาของเจ้าชายฟิลิป ทรงเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกของเราอย่างมาก นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน และเป็นเวลานานถึง 73 ปีที่ท่านทรงยืนเคียงข้างควีนเอลิซาเบธที่ 2 

ในสายตาคนทั่วโลก เจ้าชายฟิลิปทรงยินดีอุทิศพระองค์ เพื่อประชาชนในประเทศ เครือจักรภพและราชวงศ์อังกฤษ ในฐานะผู้ทรงสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้ที่มีบทบาทในกองทัพ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนวัยหนุ่มสาว และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นมรดกสืบทอดให้กับคนในชาติรุ่นต่อไป ในนามของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจิล ภริยา จะระลึกถึงเจ้าชายฟิลิป และพระองค์จะทรงประทับอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป" 

*นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี  

"การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ทำให้ฉันโศกเศร้ามาก ซึ่งมิตรภาพที่จริงใจระหว่างพระองค์กับเยอรมนี และความสำนึกในหน้านี้ จะไม่ถูกลืมเลือน" 

*ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส

"เจ้าชายฟิลิปทรงเป็นต้นแบบการดำเนินชีวิต ในด้านความกล้าหาญ สำนึกในหน้าที่ เชื่อมั่นในคุณค่าสิ่งแวดล้อม และเปิดโอกาสให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่" 

*นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย

"เจ้าชายฟิลิปทรงมีบทบาทสำคัญทางการทหาร และทรงพระราชกรณียกิจด้านงานบริการเพื่อชุมชนจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก ในนามประเทศอินเดียขอไว้อาลัย" 

*อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ

"นี่เป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถมีอะไรทดแทนได้สำหรับสหราชอาณาจักร และทั่วโลก เจ้าชายฟิลิปทรงเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศและความสง่างามของประเทศ รวมทั้งสะท้อนถึงบูรณภาพของสหราชอาณาจักร ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย"