AGE รุกธุรกิจโลจิสติกส์ ดัน 'กำไร' เติบโต !

AGE รุกธุรกิจโลจิสติกส์ ดัน 'กำไร' เติบโต !

ธุรกิจค้าถ่านหินผันผวนตามเศรษฐกิจ ส่งผลให้ 'เอเชีย กรีน เอนเนอจี' เร่งปรับตัวครั้งใหญ่ รุกสู่ 'โลจิสติกส์' หวัง 3-5 ปี (64-68) ขึ้นแท่น 'พระเอก' หลังมาร์จินสูงผลักดัน 'กำไร' เติบโต

เมื่อธุรกิจซื้อขายถ่านหิน (เทรดดิ้ง) อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ยั่งยืนอีกต่อไป ! บ่งชี้ผ่านถ่านหินเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ คอมมูนิตี้ ที่มีวัฏจักร 'ขาขึ้น-ขาลง' ตามภาวะเศรษฐกิจที่อยู่เหนือการควบคุมได้ และหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจซื้อขายถ่านหินคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของรายได้อย่าง บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE จึงจำต้องมองหาโอกาสสร้างการเติบโตครั้งใหม่ในยามที่ถ่านหินเป็นขาลง 

นั่นคือ 'ธุรกิจโลจิสติกส์' ที่บริษัทมุ่งเน้นลงทุน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิม หากวันหนึ่ง AGE ไม่ได้ค้าถ่านหินแล้ว AGE ก็ยังมีธุรกิจโลจิสติกส์ที่เข้ามาสร้างการเติบโตได้...

'พนม ควรสถาพร' ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เล่าให้ 'หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ' ฟังว่า ในเป้าหมาย 3-5 ปีข้างหน้า (2564-2568) อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์ธุรกิจของ AGE ให้เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์นำผู้ประกอบการค้าถ่านหิน โดยธุรกิจโลจิสติกส์จะขึ้นแท่น 'พระเอก' ในแง่ของการสร้างกำไรเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีมาร์จินระดับสูง แต่ในแง่ของรายได้ยังคงเป็นธุรกิจถ่านหิน ด้วยมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) ที่สูงกว่าโลจิสติกส์มาก

ทั้งนี้ สำหรับแผนธุรกิจบริษัทจะมุ่งเน้นขยายธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในและต่างประเทศ หลังจากธุรกิจซื้อขายถ่านหินไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว สะท้อนผ่านปี 2564 บริษัทซื้อท่าเทียบเรือ มูลค่า 80 กว่าล้านบาท และซื้อรถบรรทุกมูลค่า 200 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายตลาดขนส่งสินค้าในประเภทอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมจากเดิมที่บริษัทขนส่งถ่านหินเป็นหลัก 

161797423325

ขนส่งรถบรรทุก

โดยจากแผนการลงทุนแบบเชิงรุกในครั้งนี้ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทในปีนี้ สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีการขนส่งผ่านท่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าด้านการขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้าเกษตร ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ย และแร่เหล็ก เป็นต้น

สอดคล้องกับการเซ็นต์สัญญาเป็นผู้ขนส่งสินค้าให้พันธมิตรรายใหญ่ อย่าง บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด หรือ SCCC ,กลุ่มบริษัทไทยเบฟ ,บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เป็นต้น ซึ่งเป็นสัญญาระยะสั้น 1 ปี โดยปัจจุบันมีท่าเรือและคลังสินค้าจำนวน 5 แห่ง สำหรับรองรับการนำเข้าและส่งออกไปยังเรือสินค้าขนาดใหญ่บริเวณเกาะสีชัง รวมถึงสามารถใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาวและกัมพูชาได้ ซึ่งสัดส่วนขนส่งถ่านหิน 80% และสินค้าประเภทอื่น 20% 

โดยคาดว่าปี 2564 ธุรกิจโลจิสติกส์ (คลังสินค้า , รถบรรทุก , เรือบรรทุก และท่าเทียบเรือ) จะสร้างรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ที่มีรายได้ 1,200 ล้านบาท การรับขนส่งสินค้าให้ลูกค้ารายใหญ่ เพื่อเป็นการบริหารพอร์ตขนส่งไม่ต้องตีรถเปล่ากับมา ทำให้ต้นทุน

เขา แจกแจงต่อว่า สำหรับ 'ธุรกิจถ่านหิน' ปีนี้ตั้งเป้าจะมีปริมาณยอดขายที่ระดับ 5.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ราว 4.4 ล้านตัน หลังจากแนวโน้มความต้องการถ่านหินในภูมิภาคเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศจีน ,เวียดนาม และไทย 

ทั้งนี้ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนธ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศจีนมีอากาศหนาวมาก ส่งผลให้ขุดถ่านหินไม่ได้ ประจวบเหมาะกับความต้องการพลังงานความร้อนสูงเพราะอากาศหนาวทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินต้องเดินเครื่องตลอด และจีนไม่ซื้อถ่านหินจากประเทศออสเตรเลีย ขณะที่ประเทศอินโดนีเซียเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมถ่านหินขนส่งออกมาไม่ได้ ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมา 40-50% 

161797426210

ธุรกิจถ่านหิน

ขณะที่ทิศทางราคาถ่านหินปีนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมาหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทำให้ราคาถ่านหินลดลงไปบ้าง แต่ปัจจุบันราคาถ่านหินเริ่มขยับขึ้นมาในระดับสูง ตามการฟื้นตัวของหลายอุตสาหกรรมของโลกที่มีความต้องการ (ดีมานด์) มากขึ้น เช่น กลุ่มปูนซีเมนต์ , โรงไฟฟ้า , อาหาร และเครื่องดื่ม 

'ในช่วงไตรมาส 1 ปี 64 บริษัทมีการนำเข้าถ่านหินเพื่อมาขายแล้วกว่า 1.36 ล้านตัน โดยบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้า (ออเดอร์) ล่วงหน้าอยู่ที่ 1.6 แสนตัน ส่งมองต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 ปี 64 และทิศทางยังมีความต้องการต่อเนื่อง ดังนั้นครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับเป้าเพิ่มได้' 

สะท้อนผ่านปัจจุบันรถบรรทุกขนส่งถ่านหินออกจากคลังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาวันละ 400-500 รถพวง ซึ่งในอนาคตตั้งเป้าหมายวันละ 700-800 รถพวง เนื่องจากบริษัทมีพื้นที่คลังเก็บถ่านหิน '1ล้านตัน' หากเต็มบริษัทมีที่ดินเตรียมขยายไว้แล้วอีก 350 ไร่ แต่ปัจจุบันคลังเก็บถ่านหินใช้พื้นที่ไป 50% เท่านั้น ยังสามารถรองรับได้อีก 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเร็วๆ นี้ บริษัทจะมีการทยอยนำเข้าถ่านหินในปริมาณดังกล่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตทางด้านยอดขายถ่านหินที่คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ระดับ 5.5 ล้านตันภายในปีนี้อย่างแน่นอน

'ดังนั้นคงเป้ารายได้ปี 2564 แตะระดับ 11,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 7,951 ล้านบาท และยอดขายถ่านหิน 5.5 ล้านตัน ถือเป็นสถิติรายได้และยอดขายสูงสุด (All Time High) นับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจ โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจซื้อขายถ่านหิน (เทรดดิ้ง) ประมาณ 10,000 ล้านบาท และธุรกิจโลจิสติกส์ 2,000 ล้านบาท'

ท้ายสุด 'พนม' ทิ้งท้ายไว้ว่า ต่อจากนี้ AGE จะเติบโตไปในธุรกิจโลจิสติกส์ แต่หากธุรกิจซื้อขายถ่านหินขาขึ้นบริษัทก็จะได้อานิสงส์ต้องนั้นด้วย แต่หากถ่านหินขาลงผลดำเนินงานของบริษัทก็ไม่ผันผวนเนื่องจากมีโลจิสติกส์เป็นธุรกิจทำกำไร

161797429144