APREA ขยายการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์โดยการลงทุนในเชิงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันขอบเขตและสร้างโอกาสใหม่ในภูมิภาค

APREA ขยายการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์โดยการลงทุนในเชิงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันขอบเขตและสร้างโอกาสใหม่ในภูมิภาค

APREA ปรับภาพลักษณ์องค์กร ฉลอง 16 ปี ของการสนับสนุน อุตสาหกรรมระยะยาว ด้วยจุดประสงค์ที่ค้นพบใหม่ใน “การขับเคลื่อน อนาคตของอสังหาริมทรัพย์”

        สิงคโปร์ - 7 เมษายน 2564 APREA ฉลองครบรอบ 16 ปี ด้วยนิยาม ใหม่แห่งพันธกิจที่ทางสมาคมได้กำหนด: เพื่อส่งเสริมการเติบโตในภา คอสังหาด้วยการเป็นกระบอกเสียงให้กับสมาชิกในด้านนโยบาย สนับสนุนการเข้าถึงการวิจัยและข้อมูลเชิงลึกที่ก้าวหน้าในอุตสาหกรรม และเชื่อมโยงสมาชิกเข้ากับโอกาสทางธุรกิจ

        นับเป็นประวัติการณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเอเชียใน ช่วง 60 ปีที่ผ่านมา โดยศตวรรษที่ 21 ได้ถูกขนานนามให้เป็น “ศตวรรษ แห่งเอเชีย” แม้จะเกิดความวุ่นวายในการแพร่ระบาด แต่ภูมิภาคเอเชีย ยังคงเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตของโลกในอนาคต มีการคาดการณ์ ว่าจะมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึง จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และ ภูมิภาคอาเซียนในปี 2573 เป็นต้นไป ด้วยแรงหนุนจากกระแสทางด้าน ประชากร การขยายตัวของเมืองในเอเชียแปซิฟิก นับเป็นความ เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่จะผลักดันการเติบโตของชนชั้นกลางและ วัฏจักรของการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเชิงโครงสร้างของภูมิภาคที่จะอยู่ ได้นานยิ่งกว่าการแพร่ระบาด

         ศตวรรษแห่งเอเชีย – การเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ประมาณการว่าภูมิภาคนี้จะต้องการ การลงทุน 26 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2573 หากต้องการ รักษากำลังเคลื่อนไหวในการเติบโตเอาไว้ ขจัดความยากจนและตอบ สนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐต่อปีจนถึงสิ้นทศวรรษ ปัจจุบันมีการลงทุนเพียงประมาณ

900 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากนโยบายเอื้อให้ ภาคเอกชนได้เข้ามาเติมในส่วนที่ขาดอยู่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่ม โอกาสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐใน อีกสิบปีข้างหน้า "โครงสร้างพื้นฐานถือเป็นตัวแปลสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ผล

กระทบของการขยายตัวของเมือง เป็นประโยชน์กับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยข้อกำหนดสำคัญสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วซึ่งใน ท้ายที่สุดจะเป็นเจ้าภาพมากกว่าครึ่งหนึ่งของมหานครของโลก การ ลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียแปซิฟิกเป็นวัฏจักรซึ่งจะ เกิดขึ้นในช่วงหลายทศวรรษ” ความคิดเห็นของนายจอห์น ลิม ประธาน ของAPREA ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานกรรมการบริหารARAAsset Management จำกัด

       ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ดังนั้น การจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนของโครงการขนาดใหญ่ เหล่านี้จะได้รับแรงฉุด และจะมีโอกาสให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากความคิดริเริ่มด้านโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการสอดคล้อง กับการจัดสรร ESG (Environmental, Social, and Governance) การพัฒนาขึ้นใหม่ การเชื่อมต่อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

          แรงบันดาลใจทางเศรษฐกิจ – ตัวขับเคลื่อนสำคัญในภูมิภาค ความมุ่งมั่นในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของภูมิภาคจะทำให้เกิดแรง ผลักดันที่จำเป็นต่อการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับออก จากความตกต่ำของไวรัสโคโรนา จีนได้ประกาศแผนการที่จะมุ่งเน้นการพัฒนา "โครงสร้างพื้นฐานใหม่" เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนา แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ที่ประกาศไว้ในช่วง 5 - 7 ปีข้างหน้า จะต้องใช้เงินเกือบ 7 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ การเดิมพันยังวางอยู่ในภาคโครงสร้างพื้นฐานของอินเดีย

 

           โดยงบประมาณล่าสุดที่รัฐบาลอินเดียได้ให้คำมั่นที่จะขยายการใช้จ่าย เป็น 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปยังท่อส่งโครงสร้างพื้นฐาน การสร้าง สถาบันการเงินที่สามารถเปิดบทบาทของตลาดทุนในการจัดหา โครงสร้างพื้นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการความมุ่งมั่นในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานกำลังเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค ประธานาธิบดี ดูแตร์เต “สร้าง! สร้าง! สร้าง!" แผนโครงสร้างพื้นฐานที่ฟิลิปปินส์กำลังดำเนิน การมีมากกว่า 75 โครงการ โดยคาดการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายกว่า 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอินโดนีเซีย ก็ได้เริ่มสร้างระบบรถไฟ ความเร็วสูงที่เชื่อมการเดินทาง 140 กม. ระหว่างจาการ์ตาและบันดุงด้วยเช่นกัน

         Sigrid Zialcita ประธานกรรมการบริหารของ APREA กล่าวว่า  เศรษฐกิจ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และคาดว่าจะขึ้นเป็นอันดับ 4 ในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2593 กลุ่มแรงงานจะเพิ่มขึ้นอีก 60 ล้าน คน ในขณะที่ประชากรในเมืองมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 90 ล้านคนภายในปี 2573 ความจริงก็คืออาเซียนต้องการการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานหากต้องการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืน

          แผนการรวมเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ จะช่วยกระตุ้นให้โครงสร้างพื้นฐาน เติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โครงการ Belt Road Initiative ของจีน ได้พาดหัวข่าวอย่างแน่นอนถึงความพยายามในการเชื่อมต่อเอเชีย แน่นอนว่า พวกเขาไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว ญี่ปุ่นเองก็ประกาศอย่าง ชัดเจน ถึงความร่วมมือเพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ เพื่อขยายการ ระดมทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค โปรแกรม ทางการทูตด้านโครงสร้างพื้นฐานยังเห็นได้จากความร่วมมือของ สหรัฐฯ และออสเตรเลียในโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับทางสหภาพยุโรป ที่มีกลยุทธ์การ “เชื่อมต่อยุโรปและ เอเชีย” ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นสากลของมหานครในเอเชีย แปซิฟิก

    

  การเติบโตและการเพิ่มขึ้นของ REITs (ความเชื่อมั่นในการลงทุนด้าน อสังหาริมทรัพย์)นโยบายของรัฐบาลในระดับภูมิภาค จะยังคงเอื้อต่อความพยายามที่มี นัยของประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็วในการพัฒนาระบบ REIT ของ ตนเอง สภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในการแข่งขันเพื่อรักษาความปลอดภัยของ REIT ในอนาคต และกำลังเคลื่อนไหวที่สำคัญจะถูกสร้างขึ้น เพื่อการ กำกับดูแล พยายามที่จะนำหน้าในเกมการแข่งขัน การเติบโตต่อไปของ กลุ่มสินทรัพย์จะถูกขับเคลื่อนด้วยการมีส่วนร่วมของประเทศเศรษฐกิจ เกิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ความเคลื่อนไหวอย่างรวมเร็วของ REIT ในภูมิภาค หุ้นของกลุ่มบริหารสินทรัพย์ จะยังคงเติบโตอย่างต่อ เนื่อง

           “มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ REIT ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นจากต่ำ กว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเริ่มต้นของศตวรรษใหม่ มาเป็น มากกว่า 315 พันล้านดอลลาร์ ณ ขณะนี้1 มีตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ต้อง พิจารณาถึง เมื่อตลาด REIT ของจีนและอินเดียก่อตั้งขึ้นและเติบโตเต็ม ที่แล้ว เอเชียแปซิฟิกจะเป็นศูนย์กลาง REIT ทั่วโลก ด้วยมูลค่าตลาด รวมแตะที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นทศวรรษนี้ ซึ่งสูงกว่า สหรัฐฯ” Zialcita กล่าว

         โอกาสมากมายรออยู่ข้างหน้า

ภายในปี 2573 เมืองใหญ่ที่สุด 7 ใน 10 แห่งของโลกจะอยู่ในเอเชีย แปซิฟิก ประชากรในเมืองของภูมิภาคนี้จะขยายตัวเกือบสามพันล้านคน มากไปกว่านั้น ภูมิภาคนี้กำลังเกิดขึ้นเพื่อเป็นจุดสนใจในการลงทุน สำหรับนักลงทุนข้ามชาติ นอกจากนี้ภูมิภาคนี้ยังคงเป็นพื้นที่ที่ร้อนแรง ของกิจกรรมการก่อสร้างและเมื่อเมืองต่าง ๆ ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความต้องการพื้นฐานสำหรับอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้น ฐานจะเพิ่มขึ้นควบคู่ไปด้วย ในขณะที่การมุ่งเน้นทางเศรษฐกิจหันไปสู่ การฟื้นตัวในระยะยาวมากขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและ REITs จึงเป็นส่วนสำคัญของสมการนี้ เพื่อเร่งการฟื้นตัวของภูมิภาคจากการ แพร่ระบาดและสร้างความมั่นคงในอนาคตทางเศรษฐกิจ

         “ผลประโยชน์ของการลงทุนในสถาบันสินทรัพย์จะชัดเจนมากขึ้นเมื่อ โลกก้าวไปสู่อนาคตหลังการระบาดใหญ่ การจัดสรรให้กับภูมิภาคจาก นักลงทุนทั่วโลกสามารถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันการเติบโตจะเป็น โอกาสในการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ เอเชียแปซิฟิกยังคงเตรียมพร้อมที่จะใช้ ประโยชน์จากการปฏิวัติในอสังหาริมทรัพย์ เป้าหมายของ APREA คือ การปูทางไปสู่ความก้าวหน้าของโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ของภูมิภาค” นายจอห์น ลิม กล่าว