อ่อนตัวอย่าอ่อนใจ

อ่อนตัวอย่าอ่อนใจ

SET อ่อนตัว 1,545 - 1,550 จุด กังวลการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยจะล่าช้าหลังไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดรอบใหม่

ตลาดหุ้นวานนี้

SET ร่วง 23 จุด ปิดที่ 1,556.6 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนลบ. ทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,555 จุด กังวลไวรัส Covid-29 กลับมาระบาดรอบ 3 กระทบกิจกรรม ศก. และแผนเปิดประเทศที่อาจต้องล่าช้า ประกอบกับยังมีความไม่แน่นอนจากการออกมาตรการควบคุมของภาครัฐ

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET อ่อนตัว 1,545 - 1,550 จุด ตามความกังวลการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยจะล่าช้าหลังไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ โดยเฉพาะในกทม. อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากปัจจัยบวกรายงานการประชุมเฟดระบุว่าจะใช้นโยบายการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รวมถึง IMF ปรับเพิ่มการขยายตัวเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขึ้นเป็น 6%

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • TQM STGT COM7 SYNEX PTL AJ ได้ประโยชน์จากการระบาด Covid-19 
  • HANA KCE TU CPF อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
  • หุ้นกระแสกัญชง CBG ICHI SAPPE RBF DOD IP GUNKUL KISS PTG

หุ้นแนะนำวันนี้

  • BCH (6 คาดกำไร 1Q21 ที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%qoq และ 27 %yoy มาจากรายได้การตรวจคัดกรองหาเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น โดย BCH มีส่วนแบ่งในการตรวจคัดกรองมากที่สุดที่ 120,000 ครั้งในช่วง 1Q21 ที่ ผ่านมา
  • IVL (44.25 60) คาด 1Q21 มีกำไรสุทธิ 4-5 พันล้านบาท เทียบกับกำไร 1.3 พันล้านบาทใน 4Q20 เป็นผลจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ PET ปรับตัวขึ้นทั้งในตลาดเอเชียและตะวันตก นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีกำไรจาก Stock gain เพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาผลิตภัณฑ์ และราคาน้ำมัน

บทวิเคราะห์วันนี้

PTTEP (113.5 ซื้อ/เป้า 160), TTW (11.7 ขาย/เป้า 10)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) Covid-19: เนื่องจากล่าสุดมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ทองหล่อส่วนหนึ่งเป็นไวรัส Covid-19 กลายพันธ์สายพันธ์อังกฤษซึ่งแพร่กระจายเร็วกว่าเชื้อปกติถึง 1.7 เท่า ประกอบกับหน่วยงานควบคุมไม่ได้ใช้ยาแรงในการควบคุม (Lockdown) เหมือนกับการระบาดในช่วงก่อนหน้าจึงเป็นไปได้สูงที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังมีโอกาสที่จะเร่งตัวขึ้นอีก
  • (+/-) Fed Minutes FED เปิดเผยรายงานการประชุมที่มีขึ้นในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. โดยรวมยังไม่มีอะไรใหม่ คณะกรรมการส่วนใหญ่ยังเห็นพ้องให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป (คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ไปจนถึงปี 2023 หรือปี 2566) และยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบลดวงเงิน QE
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 59.77$/bbl แม้จะได้แรงหนุนจาก IMF เพิ่มคาดการณ์ World GDP และ EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ Consensus คาด แต่สต๊อกน้ำมันเบนซินกลับเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรลสวนทางกับ Consensus คาดว่าจะลดลง 2 แสนบาร์เรลปัจจัยนี้จึงเข้ามาถ่วงตลาด