รุดตรวจสอบเรือนจำ 'นราธิวาส' หลังพบเสี่ยงสูงโควิด-19 กว่าพันราย

ปลัด สธ.ควง "อธิบดีราชทัณฑ์" บินด่วนลงนราธิวาส หลังพบกว่าพันรายในคุกเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด-19

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 เม.ย.64 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมกับนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ฝ่ายปฏิบัติการ) และคณะ โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดย นพ.เกียรติภูมิ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลาง จ.นราธิวาส เพื่อรับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ก่อนที่จะแยกจากคณะ เดินทางต่อไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส (แห่งใหม่) ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยม รพ.สนาม ซึ่งตั้งอยู่ภายในเรือนจำแห่งนี้ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่อย่างไร

ขณะเดียวกันคณะของนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ฝ่ายปฏิบัติการ) ได้เดินทางไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาสทั้ง 2 แห่ง (ที่เก่าและที่ใหม่) เพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะได้เข้าไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเช่นกัน

ทั้งนี้แนวทางการปฏิบัติในการควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ พบว่าขณะนี้ทางเรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้จัดสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1 แห่ง ซึ่งกำหนดให้แดน 2 (สถานพยาบาล) เป็นโรงพยาบาลสนาม กรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19จำนวนมาก ซึ่งแดน 2 (พยาบาล) สามารถรองรับผู้ต้องขังได้ประมาณ 200 คน แต่หากมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเกิน 200 คน ที่เเดน 2 (สถานพยาบาล) จะรองรับได้ เรือนจำได้กำหนดใช้แดน 6 (แรกรับ) เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังป่วยทั้งหมดได้ประมาณ 691 คน

ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้ Scope ของกลุ่มที่ต้องดำเนินการเชิงรุกและเฝ้าระวังมีทั้งหมด 3 กลุ่มคือ

  1. กลุ่มผู้คุมและผู้ต้องขังในเรือนจำ
  2. กลุ่มที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 16 องค์กร
  3. กลุ่มที่ไปร่วมกิจกรรมจากจังหวัดอื่นๆ

ซึ่งขณะนี้ในส่วนของจังหวัดนราธิวาส ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเดินทางกลับมาแล้ว และได้เข้ารายงานตัวที่ Local Quarantine ภายในสนามกีฬา กกท.จ.นราธิวาส โดยได้มีการไล่เรียง Timeline ของทุกคนอย่างละเอียด รวมทั้งเข้าระบบการคัดกรองตามกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุข หากบุคคลใดผ่านการคัดกรองและยังไม่มีอาการ ให้กลับไปกักตัว Home Quarantine เป็นเวลา 14 วัน ส่วนบุคคลใดคัดกรองแล้วมีอาการหรือต้องสงสัย ต้องถูกกักตัวที่ Local Quarantine ที่รับจัดเตรียมไว้ให้

ทางด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตนเองได้รับรายงานจากทางสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2 วันก่อนพบว่ามีการระบาดของเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นเรือนจำแห่งใหม่ พบว่าเข้าไปตรวจเนื่องจากมีเหตุเป็นผู้ป่วยมีอาการหนักและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ซึ่งตรวจพบเป็นครั้งแรกว่าเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 จากคนไข้ที่ป่วยหนักและติดเชื้อ ซึ่งในขณะนี้กำลังหาสาเหตุของต้นเชื้ออยู่ โดยการตรวจเบื้องต้นซึ่งตรวจไปแล้ว 300 กว่าคน พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 120 คน ผู้ต้องขังทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นคนแข็งแรง

ในส่วนของผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางด้านโรคประจำใจตัว อาทิ ความดัน เบาหวาน โรคอ้วน ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้เราจะให้การดูแลเป็นพิเศษ โดยเรือนจำจังหวัดนราธิวาสเหมาะที่จะใช้มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล ที่มีประสบการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะใช้มาตรการนี้เข้ามาซึ่งคิดว่าน่าจะควบคุมโรคได้ภายใน 28 วัน ซึ่งจะอยู่ในแผนควบคุม เราจะมีปริมาณคลังยาที่จะรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่สงขลาส่งมาให้ยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ หากเกิดกรณีรุนแรงที่จะต้องใช้ยา ในส่วนของวัคซีนจะมีการฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำทุกคน และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านสาธารณสุข ซึ่งต้องมีการสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 1,000 กว่าคนกักตัวอยู่บ้าน อาจเกิดจากการหละหลวมในการป้องกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

ส่วนนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก รมว.ยุติธรรมและปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้เดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่มีผู้ต้องขังและผู้คุมติดเชื้อ COVID19 แยกเป็นผู้ต้องขัง 95 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 25 ราย รวมเป็น 120 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อกักไว้ที่แดนพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ 20 รายกักไว้ที่เรือนจำเก่า อีก 5 ราย เข้ารักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ในส่วนมาตรการที่ตนเองได้กำชับไปยัง ผบ.เรือนจำมี 3 ระดับคือ

  1. แยกแยะคนใกล้ชิดและครอบครัวไม่ให้ไปแพร่ระบาดข้างนอก
  2. แยกแยะผู้ต้องขังที่ติดเชื้อออกจากคนที่ไม่มีเชื้อ รักษาให้หายให้ได้
  3. ดูเรื่อง รพ.สนาม ซึ่งเรือนจำนราธิวาสจัดไว้ที่แดนพยาบาล และที่แดน 6 มีพื้นที่ที่สามารถทำ รพ.สนาม ขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในเขต 9 มาช่วยเรือนจำนราธิวาสปฏิบัติหน้าที่ประมาณ 30 คน เพื่อเสริมอัตรากำลัง รวมทั้งได้สั่งงดเยี่ยมเป็นเวลา 1 เดือนทั่วประเทศ แต่ญาติสามารถซื้อของหรือฝากของหรือเยี่ยมผ่านคอนเฟอเรนซ์และระบบไลน์ได้

ด้านนายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ฝ่ายปฏิบัติการ) กล่าวว่า ขณะนี้ทางสาธารณสุขพื้นที่กำลังไล่เรียงไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อทุกรายอยู่ แต่ยังไม่ชัดเจน ขอเรียนว่ากรมราชทัณฑ์เป็นองค์กรปลายน้ำที่ต้องรับผิดชอบดูแลผู้ต้องขังคดีระหว่างเด็ดขาด ผู้ต้องกักกัน ผู้ต้องกักขังและชาวต่างด้าวที่เข้ามาอยู่กับเรา ขอเรียนต่อพี่น้องประชาชนชาว จ.นราธิวาสและภาคใต้ว่า

ขณะนี้สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เรือนจำ จ.นราธิวาส เท่านั้น ไม่พบว่ามีผู้ต้องขังจากจังหวัดอื่นๆติดเชื้อโควิด นอกจากผู้ต้องขังนราธิวาสที่ติดเชื้อก่อนเข้าร่วมกิจกรรม