'โหรฟองสนาน' เผยพรรคประชาธิปัตย์ อายุย่าง 76 ปี-เริ่มสามปีของวาระปรับตัวครั้งใหญ่

'โหรฟองสนาน' เผยพรรคประชาธิปัตย์ อายุย่าง 76 ปี-เริ่มสามปีของวาระปรับตัวครั้งใหญ่

"โหรฟองสนาน" เผยพรรคประชาธิปัตย์ อายุย่าง 76 ปี(5 เมย.64)-เริ่มสามปีของวาระปรับตัวครั้งใหญ่

"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่370 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ ปชป.-เริ่มสามปีของวาระปรับตัวครั้งใหญ่

พรรคประชาธิปัตย์

ภาพดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์

ลัคนาสถิตราศีกันย์ ธาตุดิน
ทักษาเดิมตกภูมิศุกร์-ตั้งแต่ 5 เมษา 64 อายุเต็ม 75 ปี อายุย่าง 76 ปี ทักษาจรตกภูมิจันทร์
มฤตยูจร(0) เดินอยู่ในราศีเมษ-พระเสาร์ศรีจร 7 เดินอยู่ในราศีมังกร 5 เมษา 64-5 เมษา 65
5 เมษายน 2564-สุขสันต์วันเกิดครบ 75 ปี พรรคประชาธิปัตย์
ฤกษ์กำเนิดพรรคนี้อาจแตกต่างกันไปสุดแต่โหรท่านใดจะเลือกใช้ตามถนัด แต่ผู้เขียนขออ้างอิงและใช้ข้อมูลที่-พลูหลวง-ครูโหรผู้ล่วงลับให้ไว้ในหนังสือชื่อ-โหราศาสตร์-พิชัยสงคราม-ดวงเมือง เป็นฐานคือ พรรคกำเนิดจากการประชุมกันของคณะผู้ก่อตั้งครั้งที่สองจำนวน 50 คน ที่คฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และตกลงกันได้เวลาใกล้ค่ำ ของวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2489 ผูกดวงชะตาแล้วลัคนาสถิตราศีกันย์ ธาตุดิน
อ่านพื้นฐานชะตากำเนิดแบบคร่าวๆคือลัคนาสถิตธาตุดินถูกโฉลกกับแม่ธรณีเป็นสัญญลักษณ์-ผู้นำแม้จะเป็นชายก็ถูกโฉลกกับคนที่ภาพภายนอกดูแล้วออกแนวสุภาพเรียบร้อย-เรียนรู้ได้เร็วแต่มักทำช้าเพราะเป็นจอมละเอียด-พูดเก่ง (ได้ตรีโกณฑ์ธาตุลม)-แก่กฎหมาย หรือหัวหมอ (พฤหัสบดี 5 นำหน้าลัคนาฯลฯ และต่อไปนี้คือหลักใหญ่ของความเป็นไปของชะตาพรรคที่ผ่านมาและกำลังจะเป็นไปตามหลักโหร-ทักษา
1.ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 มาแล้วที่พรรคเจอปราฎการณ์หากเป็นคนคือแตกแยกระหว่างพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก(แก่งแย่ง)-การเงิน หรือเจอเข้ากับอำนาจลึกลับ (มฤตยูจร 0 เดินอยู่ในภพที่แปด-มรณะ )
อีกทั้งต้องปฏิวัติ(สูงกว่าปฏิรูป)พื้นฐานของพรรคทั้งหมด รวมทั้งบรรดาหุ้นส่วนหรือผู้มีส่วนได้เสียในพรรคทั้งหลาย (พระมฤตยูจรเล็งพฤหัสบดีดวงเดิม)และปฏิวัติความเป็นไปในพรรค-การเงินหรือผู้สนับสนุนทางการเงิน(มฤตยูจรทับพระศุกร์ดวงเดิม)
เกณฑ์นี้ถ้าเป็นคนผู้เขียนจะบอกว่าถ้ารู้สึกอึดอัดหรือคิดแล้วว่าไม่ใช่ในเรื่องทั้งหลายข้างต้นให้รีบปฎิวัติตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกปฏิวัติ หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
ครั้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาพรรคประชาธิปัตย์ได้รักษาความเก๋าไว้เหนียวแน่นแต่เมื่อสะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงได้ที่แล้ว(อาการของมฤตยู)ผลก็ระเบิดออกมาคือการเลือกตั้งครั้งล่าสุด24 มีนาคม 2562 ล็อคก็ถล่มใส่เช่นกรุงเทพฯสอบตกหมด-ฐานภาคใต้ถูกเจาะ-ภาคเหนือเหลือส.ส.ที่นั่งเดียวที่แม่สอด-ต่อมาสมาชิกพรรคก็ทยอยออกเช่นคุณกรณ์ จาติกวณิช-พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
สำคัญคือพรรคยังจะสุม-สะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงใหญ่รอวันระเบิดก่อนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 ต่อไป
คู่มือในการรับมืออิทธิพลเกณฑ์นี้คือระหว่างกลางกันยายน-กลางธันวาคม 2564 เหมาะของการทบทวน-ปรับแผนเกี่ยวกับทางชีวิตในพรรค-พื้นฐาน-ผู้มีส่วนได้เสียและเรื่องการเงิน
2.ซ้อนปฏิวัติ- ถูกโฉลกกับการปฏิรูปใหญ่- สามปี
2.1 ก่อนหน้านี้ระหว่างวันเกิดของพรรค5เมษายน 2563-5 เมษายน 2564 พรรคอยู่ระยะชะตาอับ ทำอะไรไม่ได้มากต้องถนอมตัว ทำอะไรกึ่งๆกลางๆได้ครึ่งเสียครึ่ง(ทักษาจรตกภูมิกลาง๙)
2.2 ครั้นตั้งแต่ 5 เมษายน 2564-5 เมษายน 2565 เกณฑ์เปลี่ยนไปเป็นถูกโฉลกกับการปฏิรูปใหญ่ในพรรคเรื่องเกี่ยวกับการเลือกเดินทางใหม่-อนาคตใหม่-หาคนใหม่-อายุน้อยหรือวัยรุ่น ทำสิ่งทันหรือล้ำสมัยให้พรรค(พระเสาร์เป็นศรีจร-ในภพปุตตะ)
ต่อจากนั้นระหว่าง 5 เมษายน 2565-5 เมษายน 2566 เป็นระยะที่ควรปรับปรุงพื้นฐานของพรรค ผู้มีส่วนได้เสีย-หุ้นส่วนของพรรคทั้งหมด(พฤหัสบดีเป็นศรีจร)-รวมทั้งการร่วม-ไม่ร่วมรัฐบาล
ต่อจากนั้นระหว่าง 5 เมษายน 2566-5 เมษายน 2567 เป็นระยะที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหา-ข้อขัดข้อง-อุปสรรคในพรรค(พระราหูเป็นศรีจร)
ทั้งสามปีนี้ตำราบอกหากพรรคยอมปฏิรูป-เปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วจะเหมือนเจ้าคณะที่บวชมานาน ลุกขึ้นมาปรับปรุงคณะของท่านขนาดใหญ่ ผลคือเงินบริจาคไหลมาเทมา ท่านได้เป็นพระราชาคณะ หรือถ้าบุญญาวาสนาถึงได้เป็นถึงสังฆราชตามลิลิตที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ทรงประพันธ์ไว้คือ
พฤหัสบดิ์-เสาร์-ราหู ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี
ต้องลัคน์-จันทร์-สังฆี ปวัตติสามีอาราม
บริบูรณ์ปริขาร ไทยทานก็เหลือหลาม
ขึ้นชื่อระบือนาม วรศักดิ์สังฆราช์
แม้จวบพระเคราะห์ใด ทวะเว้นไว้แต่ตัวกาล์
กล่าวคุณอุตต์มหา มหิทธิโชคในปางปี
3.ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงจะง่ายแถม เพราะแม้จะทำอย่างไรก็ได้ผลแค่กลางๆ แถมมีเรื่องทะเลาะกันเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง ในปีแรกระหว่าง 5 เมษายน 2564-5 เมษายน 2565 เนื่องจากจะมีอาการณ์สับสนในสถานะตนเองแบบสองจิตสองใจว่าจะเอาทางไหน เลือกอะไรดีเข้าข่ายถ้าเป็นคน-หากเป็นชีก็อยากสึก เป็นคนอยากจะบวช แต่มีโชคจากบัณฑิตและผู้หญิง ระวังชายโสดผมหยัก และหญิงผิวขาวเหลืองขี้โกหก (ทักษาจรตกภูมิจันทร์)
ทั้งนี้ เป็นไปตามคำประพันธ์พอให้สมาชิกพรรคได้ใช้เป็นคู่มือพิจารณาทางชีวิตของพรรคคือ..ตกภูมิที่จันทรา ในบุรพาภัยมาก ความเพราะปากตนเอง เป็นชีเกรงจะสึก คฤหัสถ์นึกใคร่บวช จะเจ็บปวดแผลหลาย ย่อมสมหมายภายหลัง จะได้ดังความคิด เพราะบัณฑิตและสัตรี มีศัตรูมาเป็นมิตร พาลผูกผิดให้โทษ ชายโสดผมหยักโสก หญิงโกหกขาวเหลือง ทำให้เคืองใจข้อง อย่าเสพส้องเสเพล…. จึงขอให้ดูลีลาการทำการเมืองของพรรคนี้ที่นำมาแล้วคือการแก้รัฐธรรมนูญ-ร่วมรัฐบาลฯลฯว่าจะเอาอย่างไรจะการความขัดแย้งในตัวพรรคเองหรือไม่
4. ตัวอย่างช่วงปฎิรูปใหญ่ที่ต้องยอมเจ็บปวด ผู้เขียนขอให้ย้อนกลับไปดูบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 324 เขียนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ชื่อตอนโอกาสทองของการบินไทยจากดวงเมืองทำนายว่าระหว่าง 21 เมษายน 2563-21 เมษายน 2564 การบินไทยต้องเปลี่ยนแปลงปฏิรูปใหญ่-เพราะอยู่ในช่วงที่พระราหู 8 เป็นศรีจรของเมือง ผลคือเกิดการเขย่ามากมายในสายการบินแห่งชาติเจ็บปวดกันไปทั่วเป็นเทวดา-นางฟ้าตกสวรรค์กันไปหมด
คนการบินไทยที่มาดูดวงชะตาช่วงนี้ ผู้เขียนจะบอกทุกคนไปว่า เมื่อผ่านความเจ็บปวดและกล้าเปลี่ยนแปลงแล้ว การบินไทยจะค่อยๆกลับมาผงาดอีกครั้ง-ด้วยเกณฑ์-หลักทักษานี้ แต่จะน่าเสียดายมากหากปชป.ปล่อยโอกาสปฏิรูปนี้ผ่านไป เพราะอาการอนุรักษ์นิยมอันเป็นพื้นฐานของคนที่ลัคนาสถิตราศีกันย์โดยพื้นฐาน
ฟองสนาน จามรจันทร์