บอร์ดแข่งขันทางการค้ารับทราบมติศาลรับคำฟ้องมติซีพีควบรวมโลตัสไม่ชอบด้วยกฎหมาย

บอร์ดแข่งขันทางการค้ารับทราบมติศาลรับคำฟ้องมติซีพีควบรวมโลตัสไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กขค.รับทราบมติศาลปกครองแล้ว พร้อมทำตามคำสั่งศาล ด้าน เลขาธิการมูลนิธิผู้บริโภค เตรียมประชุม 36 องค์กรผู้บริโภคนัดประชุมทำคำชี้แจงต่อศาลสัปดาห์นี้  ข้องใจมติกขค.ชี้ควบรวมมีอำนาจเหนือตลาดแต่กลับไฟเขียวให้ซีพีควบรวมกิจการกับเทสโก้โลกตัสได้

นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา  ประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางได้มีมติรับคำฟ้องศาลปกครองได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รวมทั้ง 36 องค์กรผู้บริโภคและผู้บริโภคจากทั่วประเทศ กรณีคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) มีมติอนุมัติให้บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ควบรวมกิจการกับบริษัท เทสโก้ สโตร์ส จำกัด ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายว่า  ทางศาลได้มีหนังสือแจ้งมติดังกล่าวมายังสำนักงานฯเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแจ้งให้บอร์ดกขค.รับทราบแล้วและได้มอบหมายให้ทางสำนักงานฯพิจารณาหนังสือของศาลปกครอง  ว่า จะให้ทางคณะกรรมการฯดำเนินการอย่างไรบ้าง เบื้องต้นก็จะส่งหนังสือรับทราบคำสั่งของศาลปกครองไปให้ศาลฯ ส่วนการดำเนินการปฏิบัติตามเงื่อนไข 7 ข้อที่ให้ทางซีพีปฏิบัติภายหลังที่กขค.มีมติให้ควบรวมกิจการก็ยังดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง   เพราะศาลยังไม่มีคำสั่งอะไร หากมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งทางเราก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง

             

นางสาวสารี  อ่องสมหวัง  เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค  กล่าวว่า ภายหลังศาลปกครองกลางได้มีมติรับคำฟ้องศาลปกครองได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รวมทั้ง 36 องค์กรผู้บริโภคและผู้บริโภคจากทั่วประเทศ   โดยศาลขอให้ผู้ฟ้องจัดทำคำชี้แจงพร้อมเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลภายใน 7 วันหลังได้รับหมายเพื่อพิจารณาว่าจะคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ โดยเรื่องนี้ทางมูลนิธิฯและ  36 องค์กรฯที่ร่วมฟ้องจะมีการนัดประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาทำคำชี้แจงต่อศาล ซึ่งหากว่าทำเสร็จภายใน 7 วันทางมูลนิธิฯก็จะดำเนินการยื่นทันทีแต่หากว่าขอมูลยังไม่เพียงต้องใช้เวลาดำเนินการก็จะมีขอขยายเวลาออกไป ส่วนคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ก็มีทำหน้าที่ทำให้การต่อศาล

มูลนิธิฯเห็นว่า กขค.มีมติไม่ชอบด้วยกฎหมาย  โดยทางกขค.มองว่า การรวมครั้งนี้มีอำนาจเหนือตลาดแต่ไม่ใช่เป็นการผูกขาด ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น เพราะแค่มีอำนาจเหนือตลาดก็ไม่ควรมีมติให้ควบรวมกิจการได้ ทำให้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าไม่สามารถบังคับได้  ซึ่งในต่างประเทศการพิจารณาการควบรวมกิจการจะดูเรื่องของอำนาจเหนือตลาด หากพิจารณาแล้วมีอำนาจเหนือตลาดก็ไม่สามารถที่จะควบรวมได้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาการผูกขาด นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่าข้องใจคือ เมื่อมติเสียงข้างมากให้ควบรวมกิจการแล้ว การกำหนดเงื่อนไขให้ปฏิบัติตามมติ ยังไม่ให้กรรมการเสียงข้างน้อยมีส่วนกำหนดเงื่อนไข 7 ข้อ ซึ่งน่าจะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นเสียงข้างน้อยแต่ก็ควรมีสิทธิที่จะกำหนดเงื่อนไขหรือมีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ได้

    

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมกับสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม และองค์กรผู้บริโภคและผู้บริโภคทั่วประเทศกว่า 37 องค์กร ร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และ สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้ากับศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งพิกถอนมติของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ที่มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้วอนุญาตให้บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ควบรวมกิจการกับบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารงานค้าปลีกเทสโก้-โลตัสและขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์ชั่วคราว โดยมีคำสั่งให้ระงับการรวมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ดังกล่าวไว้ก่อนชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น