กพท.คุมแอร์ไลน์รับเปิดประเทศ 'การบินไทย' คาดผู้โดยสารฟื้น 50% 

ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อเดินทางท่องเที่ยวมายังจังหวัดเป้าหมาย ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอ โดยมีโรดแมพการเปิดรับนักท่องเที่ยว ยกให้จังหวัดภูเก็ต เป็น “Phuket Sandbox” รับนักท่องเที่ยวบินตรง ไม่ต้องกักตัว เริ่มเดือน ก.ค.นี้

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการเดินทางภายหลังไทยประกาศเปิดให้ต่างชาติเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว โดยระบุว่า กพท.ประเมินแล้วว่าความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยมีสูงมาก เพราะไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ต่างชาติให้ความนิยม

ดังนั้นในช่วงเวลานี้อุตสาหกรรมการบินจะต้องเตรียมพร้อมทั้งบุคลากร และแนวทางรองรับการเดินทาง เพื่อทำให้ทุกส่วนมั่นใจถึงการเปิดประเทศครั้งนี้ โดยต่างชาติก็ต้องมั่นใจที่จะเดินทางมา ขณะเดียวกันคนไทยก็ต้องมั่นใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนและปฏิบัติตามเงื่อนไขกำหนด

โดยจากการสำรวจความต้องการตารางบิน (สล็อต) ของสายการบินต่างๆ พบว่าในช่วงตารางบินฤดูหนาว ซึ่งจะเป็นฤดูการท่องเที่ยว และเป็นตารางบินแรกหลังจากประเทศไทยเปิดให้ต่างชาติเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว พบว่ามีสายการบินแสดงความสนใจจองตารางบินในช่วงดังกล่าวแล้ว แม้ว่าขณะนี้จะมีสายการบินที่จองเข้ามาอย่างเป็นทางการยังเป็นสายการบินสัญชาติไทย แต่เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลประกาศแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน จะมีสายการบินต่างชาติจองสล็อตเข้ามาเพิ่มเติม

สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะเดินทางมาเที่ยวไทย เมื่อมีการประกาศนโยบายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างชัดเจน จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เพราะสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ ปัจจุบันจะพบว่าจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศได้แล้ว ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปยังเกิดการระบาดซ้ำ เช่น เยอรมัน และฝรั่งเศส

นายสุทธิพงษ์ ยังกล่างถึงการเตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลด้วยว่า การประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) วันที่ 8 เม.ย. นี้ จะมีการหารือถึงแผนเตรียมความพร้อมด้านการบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัว ตามโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีการกำหนดมาตรการหรือแนวทางปฏิบัติให้กับนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน

ขณะที่การเตรียมความพร้อมในภาคอุตสาหกรรมการบิน เมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา กพท. ได้ส่งแผนความต้องการใช้วัคซีนในอุตสาหกรรมการบินที่จำเป็น ไปให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พิจารณา เนื่องจากบุคลากรด้านการบินจะเป็นเสมือนด่านหน้าในการรับนักท่องเที่ยว มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเบื้องต้นสำรวจพบว่ามีประมาณ 2 หมื่นคน ที่ต้องการเข้ารับวัคซีน

“บุคลากรด้านการบินที่เราสำรวจมา จะเป็นนักบิน ลูกเรือ และพนักงานด้านการบินภาคพื้น จากสายการบินของไทยทั้งหมด ที่เราได้ทำการสอบถามและให้แจ้งความจำนงในการขอรับวัคซีนมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ผ่านการรับวัคซีนมาแล้ว” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ขณะนี้การบินไทยได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้มีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาดำเนินการฉีดให้กับนักบินและลูกเรือของการบินไทย เนื่องจากพนักงานส่วนดังกล่าวถือเป็นด่านหน้าในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจากต่างประเทศ ถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แต่เป็นบุคคที่ต้องเสียสละด้วยหน้าที่ ในการต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยวที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศ

“เราได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งตอนนี้เข้าใจดีว่าอยู่ในช่วงของการฉีดให้กับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างแพทย์และพยาบาล อาสาสมัครทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถรอคิวได้ แต่ได้แจ้งไปแล้วว่าเราขอเข้าคิวในการรับวัคซีน เพื่อเป็นด่านหน้าในการนำรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ” นายชาญศิลป์ กล่าว

 นอกจากนี้ การบินไทยประเมินว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ผู้โดยสารการบินไทยจะกลับมาในสัดส่วน 40-50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเหลือเพียง 10% โดยการเดินทางจะเริ่มกลับมาในช่วงปลายปีนี้ หลังจากเริ่มฉีดวัคซีนแล้ว คนจะเริ่มมั่นใจ และเดินทาง คาดว่าผู้โดยสารจะมีสัดส่วน 20%