คาดงบธนาคารและพลังงานหนุนดัชนีผ่าน 1,600 จุด (2 เม.ย.64)

คาดงบธนาคารและพลังงานหนุนดัชนีผ่าน 1,600 จุด (2 เม.ย.64)

แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการประกาศงบหนุนบรรยากาศลงทุน

หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ดัชนีสำคัญ โดย S&P500 ทำจุดสูงสุดใหม่ ปรับขึ้นเหนือระดับ 4,000 จุด เป็นครั้งแรก ทั้งจากมุมมองเชิงบวกที่มีต่อแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของไบเดน และการตอบรับเชิงบวกต่อการรายงานผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Micron Technology ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ไตรมาส 1/64 จากความต้องการชิปที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3-4% หลังโอเปคและพันธมิตร มีแผนปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันแบบค่อยเป็นค่อยไป พ.ค. 350,000 บาร์เรล/วัน, มิ.ย. 350,000 บาร์เรล/วัน และ ก.ค. 441,000 บาร์เรล/วัน

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ภาพรวมคาดกำไรลด YoY แต่ฟื้น QoQ แม้ส่วนใหญ่น่าจะรายกงานกำไรต่ำกว่าไตรมาส 1/63 เนื่องจากผลกระทบจากโควิด แต่ภาพรวมยังเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4/63 ในเกือบจะทุกหุ้นที่เราวิเคราะห์ ยกเว้น TISCO ที่คาดมีโอกาสรายการกำไร +QoQ และ +YoY ซึ่งเรามองเป็นบวกกับการเก็งกำไร BBL, SCB และ TISCO โดยกลุ่มธนาคารคาดรายงานกำไรไม่เกิน 20 เม.ย.64  

กลุ่มพลังงาน ภาพรวมคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/64 เราคาดกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย ฟื้นตัวขึ้นทั้ง QoQ และ YoY นำโดยกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และไม่มีขาดทุนจากสต็อคดังเช่นที่เกิดขึ้นในปีก่อน (ไตรมาส 1/63) โดยมีแนวโน้มที่ PTTEP จะปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบขึ้นจากเดิม (ประชุมนักวิเคราะห์ 28 เม.ย.) อย่างไรก็ตามในเชิงผลประกอบการอาจมีการขาดทุนจากการประกันความเสี่ยง หลังราคาน้ำมันปรับขึ้นแรง กลุ่มที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นโรงกลั่นที่ผลประกอบการจะเป็นบวกต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้การบริโภคน้ำมันและ Gasoline spread ดีขึ้น บวกต่อ SPRC, ESSO และ IRPC

บรรยากาศยังสนับสนุนการเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back รวมถึง Asset warehousing เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 2) กลุ่มเปิดเศรษฐกิจ บวกต่อ CPN, CRC, MAJOR, SPA, BDMS, M 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) Re-rating PTG 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 7) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, TOP ส่วน SCC ยังขึ้นน้อยที่สุดใน 1 ปี ที่ผ่านมา 8) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART 9) การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร บวกต่อหุ้นประกัน THRE, TIP, BLA

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวนำโดยธนาคารและพลังงาน ยังคงมุมมองบวกต่อภาพระยะกลาง เลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร BBL*, IRPC*, PTG*, TWPC*

แนวรับ 1,594 / แนวต้าน : 1,600-1,630 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

PMI ภาคการผลิตยูโรโซนพุ่งสูงสุดในรอบ 24 ปี. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของยูโรโซน (PMI) เดือน มี.ค. พุ่งขึ้นสู่ระดับ 62.5 ทำจุดสูงสุดในรอบ 24 ปี จาก 57.9 ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 62.4

PMI ภาคการผลิตสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ 37 ปี. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM PMI) เดือน มี.ค. พุ่งขึ้นสู่ระดับ 64.7 ทำจุดสูงสุดในรอบ 37 ปี จาก 60.8 ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 61.7

WTO คาดปริมาณการค้าโลกปี 64 โต 8% yoy. องค์การการค้าโลก (WTO) คาดปริมาณการค้าโลกในปี 64 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 8% yoy หลังหดตัว 5.3% ในปี 63 จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19

Cash balance - ตลท.ให้ TRITN และ TRITN-W3 ติดระดับ 1 (ต้องซื้อบัญชี Cash balance) ส่วน SABUY ติดระดับ 2 (ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance)

ประเด็นติดตาม: - 2 เม.ย. : US Employment Report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)