ไฟป่าดอยสุเทพ-ปุย ดันฝุ่นเมืองเชียงใหม่พุ่ง อันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง

สถานการณ์ไฟป่า ดอยสุเทพ-ปุย ส่งผลให้ค่าฝุ่น ตัวเมืองเชียงใหม่พุ่งขึ้น อันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง

เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าหรือไฟป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บ้านขุนช่างเคี่ยน รอยต่อ อ.แม่ริม กับ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยไฟป่าเริ่มปะทุ เมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ 1 เม.ย 2564 ผ่านมา

กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ระดมกำลังเข้าร่วมกับดับไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เกิดไฟป่าใกล้บริเวณเกษตร Side B บ้านขุนช่างเคี่ยน รอยต่อ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม กับ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยมีกำลังร่วมดับไฟป่า ประกอบด้วย ชุดดับไฟป่าภูพิงค์ 3 ชุด, เสือไฟ 3 ชุด, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ –ปุย ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 และ นายก อบต.ช้างเผือก ชาวบ้านขุนช่างเคี่ยน และกำลังทหารจาก มทบ. 33 รวมประมาณ 100 นาย

161733000872

โดยใช้เวลาดับไฟประมาณ 5 ชั่วโมง จนไฟดับในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 2 เม.ย. 2564 สามารถควบคุมไฟให้อยู่ในแนวได้ประมาณ 90% ที่เหลือนำกำลังทำแนวควบคุมเนื่องจากพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชัน ลึกและลาดชัน รวมถึงอันตรายต่อ เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจึงต้องใช้ความระมัดระวัง ประกอบกับบริเวณไฟไหม้เป็นป่าสน มีขอนไม้ตอไม้ตายและใบสนที่ติดไฟ ทำให้มีควันมากยากลำบากในการปฏิบัติงาน ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมามีลมกระโชก ที่อาจจะทำให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง โดยชุดดับไฟได้ตรึงกำลังดับไฟป่าและเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน เช้าวันนี้ จะมีการเสริมกำลังและเริ่มดับตอที่ยังติดไฟอยู่เพื่อให้ไฟดับสนิทมีพื้ยที่ป่าเสียหายประมาณ 120 ไร่ ส่วนสาเหตุ การเกิดไฟป่าในครั้งนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน

จากเหตุการณ์ไฟป่าดอยสุเทพ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้หมอกควัน ไฟป่าเข้ามาปกคลุมในตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงเช้าของวันนี้ ทำให้ ค่าฝุ่นละออง ขนาดเล็กหรือ PM 2.5 พุ่งขึ้น ไปอยู่ที่อันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง เว็บไซต์ Air visual ได้รายงานดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 228 US AQI สูงสุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ ในอำเภอรอบนอกที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานคือ อ.แม่แตง วัดค่า PM 2.5 ได้ 369 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.ไชยปราการ วัดค่า PM 2.5 ได้ 199 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.สันป่าตอง วัดค่า PM 2.5 ได้ 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานการตรรวจพบจุดความร้อนโดยดาวเทียม ว่าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบจุดความร้อนทั้งหมด 154 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 100 จุด , เขตสปก 2 จุด , ป่าสงวน 48 จุด พื้นที่การเกษตร 4 จุด โดยจุดที่ตรวจพบจุดความร้อนมากที่สุดอยู่ในพื้นอำเภอเชียงดาว โดยมีจุดความร้อนถึง 47 จุด ซึ่งวันนี้ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการขึ้นไปดับไฟป่าเรียบร้อยแล้ว

สำหรับบรรยากาศในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่าหรือฝุ่น PM 2.5 คุณภาพอยู่ในระดับสีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาก็ต้องสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่นละออง จากพิษของPM 2.5 ส่วนสายการบินพานิชย์นั้น เครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ ซึ่งทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ได้เปิดไฟนำร่องรันเวย์เพื่อช่วยนักบินในการนำเครื่องลงจอดอีกด้วย