'เดินทางเข้าประเทศไทย' ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง?

ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลเร่งมาตรการเปิดประเทศ เนื่องจากปัจจุบันความคืบหน้าการกระจายวัคซีนโควิดขยายวงกว้างมากขึ้น มีประชาชนหลายกลุ่มได้รับการฉีดวัคซีนไปบ้างแล้ว รวมถึงรัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้จองสิทธิฉีดวัคซีนในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างเคร่งครัด ตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุขของไทย 

ทั้งนี้ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 9) ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 เป็นต้นไป ได้มีการกำหนดรายละเอียดของ บุคคลกลุ่มต่างๆ ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยไว้อย่างละเอียด ทั้งประเภทบุคคล การปฏิบัติตัวก่อนเเดินทางเข้ามา รวมถึงช่วงเวลาที่เดินทางมาถึงหรืออยู่ในประเทศ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง?

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้แบ่งกลุ่มบุคคลที่ต้องปฏิบัติในลักษณะเดียวกันไว้ดังนี้

• ผู้มีสัญชาติไทย 
• คณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศที่มาปฏิบัติงานในไทย (รวมคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตร)
• ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
• คนต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (รวมคู่สมรสและบุตร)
• ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตเข้ามาทำงาน (รวมคู่สมรสและบุตร)
• บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การกีฬา การท่องเที่ยว การศึกษา และกิจกรรมอื่นๆ (ไม่มีสัญชาติไทย)

    

มาตรการก่อนเดินทางเข้าประเทศ

1.ให้เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ชุมนุมไม่น้อยกว่า 14 วัน

2.ต้องมีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามา ขึ้นอยู่กับประเภทบุคคล เช่น 
- หนังสือรองรับว่าเป็นบุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้
- หลักฐานยืนยันสถานที่ที่ผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักตัว ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ราชการกำหนด
- ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง 
- หนังสือรับรองที่ยืนยันว่าหน่วนงานต้นสังกัดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล
- กรมธรรม์ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล หรือหลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมกรณีโรคโควิด-19 วงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์ 

3.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทาง (Exit Screening)

   

มาตรการเมื่อเดินทางถึง / ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

1.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)

2.ยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ

3.ใช้ระบบติดตามหรือติดตั้งแอพพลิเคชั่นตามที่ทางราชการกำหนด

4.เข้ารับการกักตัว และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งมีเงื่อนไขหลักๆ คือ
- กักตัวอย่างน้อย 7 วัน หากได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง ซึ่งต้องมีเอกสารรับรองว่าได้รับวัคซีนแล้ว 
- กักตัวอย่างน้อย 10 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับยังไม่ครบตามที่กำหนด
- กักตัวอย่างน้อย 14 วัน หากเดินทางมาจากประเทศ หรือพื้นที่ที่พบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19

5.ต้องตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ตามหลักเกณฑ์ของช่วงเวลาในการกักตัว

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบุคคลอื่นสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ซึ่งมีรายละเอียดมาตรการการปฏิบัติที่แตกต่างกันไป ดังนี้

ผู้มีเหตุยกเว้นหรือกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น

มาตรการก่อนเดินทางเข้าประเทศ

1.ให้เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ชุมนุมไม่น้อยกว่า 14 วัน
2.ต้องมีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามา
3.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทาง (Exit Screening)
4.ให้มีแผนเดินทางระหว่างอยู่ในราชอาณาจักรที่แน่นอนชัดเจน และสามารถติดตามตัวได้

มาตรการเมื่อเดินทางถึง / ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

1.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)
2.ยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ
3.ต้องตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ตามหลักเกณฑ์ของช่วงเวลาในการกักตัว
4.ให้ถูกคุมสังเกตตามแผนการเดินทางที่กำหนดไว้ โดยมีผู้ติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุขตลอดระยะเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักร
5.ให้เดินทางโดยยานพาหนะที่จัดเตรียมไว้ และตามแผนการเดินทางที่กำหนดไว้เท่านั้น 

  

ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น ซึ่งกำหนดว่าเมื่อเสร็จภารกิจแล้ว จะต้องกลับออกไปโดยเร็ว 

มาตรการก่อนเดินทางเข้าประเทศ 

- ต้องมีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบจุดจอดยานพาหนะและขนส่งสินค้าที่แน่นอน และต้องระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากราชอาณาจักร รวมถึงต้องระบุจำนวน ชื่อ-สกุล และสถานที่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ขนส่งสินค้า ทั้งผู้ขนส่งสินค้าของประเทศ พื้นที่ต้นทางและของประเทศไทย 

มาตรการเมื่อเดินทางถึง / ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

1.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)
2.ยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ
3.ให้นำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนดไว้เท่านั้น รวมทั้งให้ใช้ระบบติดตามหรือแอพพลิเคชั่นตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อติดตามการเดินทางได้
4.ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด
5.ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรทันที เมื่อขนส่งสินค้าเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7 ชั่วโมงนับแต่ยานพาหนะนั้นออกจากช่อทางเข้าออกระหว่างประเทศไปยังจุดขนส่งสินค้า ทั้งนี้หากมีเหตุจำเป็นให้ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้พิจารณาตามสมควรแก่กรณี 

แรงงานต่างด้าวที่นายจ้างนำเข้ามาทำงานเป็นการชั่วคราว

นักเรียน/นักศึกษา (ไม่สัญชาติไทย)

ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในไทย (ไม่มีสัญชาติไทย)

มาตรการก่อนเดินทางเข้าประเทศ 

1.ให้เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ชุมนุมไม่น้อยกว่า 14 วัน
2.ต้องมีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามา
3.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทาง (Exit Screening)

มาตรการเมื่อเดินทางถึง / ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

1.ต้องคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของพื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)
2.ยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ
3.ใช้ระบบติดตามหรือติดตั้งแอพพลิเคชั่นตามที่ทางราชการกำหนด
4.เข้ารับการกักตัว และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งมีเงื่อนไขหลักๆ คือ
- กักตัวอย่างน้อย 7 วัน หากได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง ซึ่งต้องมีเอกสารรับรองว่าได้รับวัคซีนแล้ว 
- กักตัวอย่างน้อย 10 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับยังไม่ครบตามที่กำหนด
- กักตัวอย่างน้อย 14 วัน หากเดินทางมาจากประเทศ หรือพื้นที่ที่พบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19
5.ต้องตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ตามหลักเกณฑ์ของช่วงเวลาในการกักตัว
6.การเดินทางไปสถานที่กักกัน ใช้ยานพาหนะที่เตรียมไว้เท่านั้น ห้ามแวะพัก

อย่างไรก็ตามนั้น มาตรการกักตัวขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งจะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเท่านั้น