‘แตกแบงก์พัน’ผุดพรรคสาขา จับตาเกม 2 ชั้น ‘ดีลซ้อนดีล’

 ‘แตกแบงก์พัน’ผุดพรรคสาขา  จับตาเกม 2 ชั้น ‘ดีลซ้อนดีล’

จังหวะก้าวย่างของบรรดาพรรคการเมืองหลังจากนี้ ที่สุดแล้วอาจไม่ใช้แค่การจับขั้ว หรือสลับสับเปลี่ยนขั่้วทางการเมือง แต่อาจเป็นดีลซ้อนดีลที่เหนือชั้นกว่า เกมการเมือง ณ ปัจจุบัน

ข่าวคราวการตั้งพรรคการเมืองที่ปรากฎออกมาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เกิดขึ้นท่ามกลางการจับตาของบรรดาคอการเมือง ที่ประเมินว่า นี่อาจเป็นสัญญาณกลายๆ ถึงการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ 

สอดคล้องกับการโยนหินถามทาง เรื่องการ “ยุบสภา” ที่ปรากฎออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งถูกมองว่าอาจเป็น“ไพ่ในสุดท้าย” ที่ถูกโยนออกมา เพื่อล้างไพ่การเมืองกันใหม่ หลังเกิดแรงสั่นคลอน ไม่ว่าจะเป็น“ขั้วรัฐบาล” ทั้งกรณีโหวตร่างรัฐธรรมนูญเมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 มี.ค. ลามมาถึงการคว่ำมาตรา 9 กฎหมายประชามติในวันถัดมา ที่ปรากฎภาพการดัดหลัง เอาคืนกันไปมาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล “พลังประชารัฐ” “ประชาธิปัตย์” และ“ภูมิใจไทย”

ไม่ต่างไปจากพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” เมื่อย้อนกลับไปในวันโหวตร่างรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่า “26 ส.ส.” ไม่ขานชื่อลงคะแนน ทั้งที่บางคนนั่งอยู่ในห้องประชุม 

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ส.ส.กทม. ทั้ง การุณ โหสกุล จิรายุ ห่วงทรัพย์ ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และอนุสรณ์ ปั้นทอง ซึ่งล้วนมีความสนิทสนมกับ “เจ้าแม่ กทม.” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มสร้างไทย

ล่าสุดจากกลุ่มการเมือง ก็ขยับขึ้นเป็น “พรรคสร้างไทย” โดย กกต.รับรองเรียบร้อยแล้ว

161711970985

นอกจากนี้ ในจำนวน ส.ส.26 คน ยังมีกลุ่ม ส.ส.อีสานอีกส่วนทั้ง ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนมเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ และ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ที่ไม่ลงคะแนนในวันดังกล่าว

เหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวคราวการตั้งพรรคใหม่ แม้แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยยังบอกเองว่า ทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่สวนทางกับมติพรรค และไม่ต่างอะไรกับการ “ตกปลาในบ่อเพื่อน” 

โดยเฉพาะ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แกนนำคนสำคัญของพรรค ยังยอมรับอีกด้วยว่า  “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถือว่าขัดมติพรรค”  

161711249227

ถัดมาเพียง 2 วัน ในวันที่ 20 มี.ค. ยังปรากฎภาพ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้มากด้วยคอนเนคชันการเมือง และถูกวางตัวให้เป็นตัวแทน “3 ป” ในการปลุกปั้นพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นพรรคสำรองของพลังประชารัฐ ได้เดินทางพร้อมด้วยบิ๊กข้าราชการ รวมถึงส.ส.พื้นที่ภาคอีสาน ไปร่วมทำบุญวันเกิด “เตือนใจ จรัสเสถียร” มารดายุทธพงศ์

ด้วยช่วงจังหวะที่ “บังเอิญ” หรือ “ตั้งใจ” นี้เอง จึงไม่พ้นข้อสงสัยว่า เป็นการส่งสัญญาณสลับขั้วทางการเมืองหรือไม่ ทว่าสถานการณ์นี้กลับเป็นประโยชน์ ใช้เป็นหมากเอาคืนบรรดาแนวร่วม เพื่อสยบความชุลมุนวุ่นวายได้อีกทางหนึ่งด้วย

ไม่ต่างไปจากความเคลื่อนไหวของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่แม้ช่วงหนึ่งจะสวมบทเสือหมอบ แต่ลึกๆ แล้ว เขายังมีความหวังในการรีโนเวทพรรค“เครือข่ายชินวัตร” 

อ่านเกมดูแล้วเวลานี้ตัว“โทนี่”เอง อาจพยายามดีดนิ้วนับลูกคิด โดยเลือกที่จะเล่น 2 หน้า เห็นได้ชัดจากท่าทีหลังปรากฎตัวใน CARE ClubHouse ในเชิงสนับสนุนม็อบ พูดถึงการคุมตัวแกนนำราษฎรในทำนองว่า“เป็นเรื่องผิดปกติ และไม่มีที่ไหนเขาทำกัน”

161711272116

ท่าทีดังกล่าว แม้จะสร้างความพอใจส่วนหนึ่งให้ฝั่งผู้ชุมนุม แต่ยังมีข้อสงสัยต่อประเด็นการแก้ไข ม.112 รวมถึงการประกันตัวตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่ไม่ปรากฎท่าทีของอดีตนายกฯ ทั้งใน “นามส่วนตัว” หรือ “ในนามพรรคเพื่อไทย” แต่อย่างใด

ข่าวคราวการตั้งพรรคของบรรดาพรรคการเมืองเวลานี้ อาจไม่ใช่แค่ข่าวลือ หรือเพียงแค่คาดการณ์ แต่อาจเป็นการส่งสัญญาณ ถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น 

เมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องจับตาจังหวะก้าวย่างของบรรดาพรรคการเมืองหลังจากนี้ ที่สุดแล้วอาจไม่ใช้แค่การจับขั้ว หรือสลับสับเปลี่ยนขั้วทางการเมือง แต่อาจเป็นดีลซ้อนดีลที่เหนือชั้นกว่า เกมการเมือง ณ ปัจจุบัน ชนิด “สมประโยชน์” แบบ “วิน-วิน” ด้วยกันทุกฝ่ายก็เป็นได้