'มิวสเปซ' รับสิทธิพิเศษบีโอไอ ยกเว้นภาษี 8 ปี

มิวสเปซได้สิทธิพิเศษบีโอไอ 8 ปีไม่จำกัดวงเงิน หวังช่วยสร้างอาชีพเฉพาะแรงงานทักษะสูง ระบุใน 3-5 ปีจะมีการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น 1,000 คน พร้อมเตรียมเปิดตัวดาวเทียมที่พัฒนาเองจนสำเร็จเล็งทดสอบยิงขึ้นสู่ชั้นอวกาศ และสามารถให้บริการได้ในปีนี้

นายวรายุทธ เย็นบำรุง กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในชั้น A1 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ประเภทกิจการผลิตหรือซ่อมอากาศยาน หรือ อุปกรณ์เกี่ยว กับอากาศ โดยทางมิว สเปซ ได้ใช้การผลิตชิ้นส่วนดาวเทียม ขนาดเล็กเพื่อยื่นขอการส่งเสริมแผนการลงทุนไปที่ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ลงทุนเครื่องจักร และ การวิจัยและพัฒนา

สำหรับได้รับการอนุมัติสิทธิและประโยชน์นั้น บริษัทจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงิน รวมถึงสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อกระจาย ความเจริญสู่ภูมิภาค ได้แก่ การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติม 5 ปี และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีอีกด้วย

“นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางด้านธุรกิจแล้ว การได้รับการสนับสนุนจาก บีโอไอยังสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยอุตสาหกรรมอวกาศนั้นจะสามารถสร้างอาชีพโดยเฉพาะ แรงงานทักษะสูง โดยแผนของบริษัทคือภายในระยะเวลา 3-5 ปีจะมีการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เป็นหลัก 1,000 คน”

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักในการลงทุนในเครื่องจักรของบริษัทฯ คือเพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งรวมถึงวัสดุ อุปกรณ์ ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่นเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printer / Additive Manufacturing) เครื่องกัด ซีเอ็นซี (CNC Machine) แขนกลเชื่อมโลหะ (Robotic Arms) ห้อง คลีนรูมระบบทดสอบการทรงตัว (Attitude Control Test Bed)

โดยจะประกอบไปด้วยระบบแบริ่งลม (Air Bearing) ระบบขดลวดเฮล์มโฮลทซ์ (Helmholtz Cage) และระบบการจําลองแสงอาทิตย์ (Sun Simulator) ส่วนการลงทุนเพื่อการวิจัยพัฒนา และออกแบบ ระบบวิศวกรรมดาว เทียมนั้นจุดประสงค์ คือ เพื่อสร้างและต่อยอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและอวกาศ

เขา เสริมว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของมิว สเปซ คือบริษัทเอกชนผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตภาครัฐ เช่น หน่วยงานเกี่ยวกับอวกาศและ หน่วยงานความมั่นคง หรืออุตสาหกรรมหนัก และบริษัทการบินและอวกาศ รายอื่นๆ ซึ่งคาดว่าในอีก 3-5 ปีจะเริ่มเห็นผลตอบรับอย่างเป็นรูปธรรม และสิ่งที่ลงทุนไปจะเริ่มส่งผลสูงขึ้น

อีกทั้ง ปัจจุบันมิว สเปซ กำลังเร่งพัฒนาดาวเทียมต้นแบบภายในโรงงาน และกำลังขยายการปฏิบัติการ ไปที่โรงงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า เพื่อสามารถรองรับการผลิตได้มากขึ้น โดยเร็วๆนี้ บริษัทจะเตรียมเปิดตัวดาวเทียมซึ่งได้พัฒนาเองจนสำเร็จในงานแสดงเทคโนโลยีของมิว สเปซ ซึ่งจะทำการทดสอบยิงขึ้นสู่ชั้นอวกาศ และสามารถให้บริการได้ภายในปี 2564 นี้