รอง ผบ.ตร. เผย พบกระทำผิด ศึกเลือกตั้งเทศบาล 29 คดี

29 มี.ค. 2564 จากกรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังเตรียมความพร้อม ในการดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัย ภายในหน่วยเลือกตั้งนั้น

 ล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติในการดูแลรักษาความปลอดภัยการเลือกในวันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ตนรับผิดชอบในเรื่องนี้

 

 

ทั้งนี้ ในภาพรวมถือว่าเรียบร้อยเป็นที่น่าพอใจ มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งบางพื้นที่ รวม 29 คดี ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการซื้อเสียง 8 ราย ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง บุรีรัมย์ ยโสธร นครราชสีมา ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช ฉีกบัตรเลือกตั้ง 10 ราย นำบัตรเลือกตั้งออกมานอกหน่วย , เผาทำลาย 1 ราย , หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 1 ราย , ทำป้ายหาเสียงให้ เข้าใจผิด 1 ราย , ทำลายป้ายหาเสียง 4 ราย , ติดป้ายหาเสียงเกินกว่าที่ กกต. กำหนด 1 ราย , จำหน่ายสุรา ในเขตเลือกตั้ง 3 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ได้รายงาน กกต.จังหวัด ได้รับทราบแล้ว

 อย่างไรก็ตาม สำหรับในเรื่องของการฉีกบัตรเลือกตั้งนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด เช่นที่ จังหวัดนนทบุรี ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าใจผิด เนื่องจากเห็นคำว่า “ฉีกตามรอยปรุ” บางรายมีปัญหาทางหู อย่างที่เชียงราย เจ้าหน้าที่สั่งว่า “ให้พับครึ่ง” แต่เจ้าตัวเข้าใจว่า “ฉีกครึ่ง” แล้วทำการฉีกบัตร จึงได้นำตัวมาเปรียบเทียบปรับ

  สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ตำบลดอนทราย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ที่ก่อนหน้านี้ มีการใช้อาวุธปืนยิง นางวราพร เนียมรักษา ผู้สมัครนายกเบอร์ 2 เสียชีวิตนั้น ผลการนับคะแนนโหวตโน มากกว่า นางจิตรลดา เนียมรักษา ผู้สมัครเบอร์ 1 ซึ่งเป็นภรรยาของนายวันชาติ เนียมรักษา ผู้ก่อเหตุ จึงต้องเตรียมการจัดการเลือกตั้งใหม่

 

  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ช่วยกันดูแลความเรียบร้อยในหน่วยเลือกตั้ง และอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิอย่างเต็มที่ โดยภาพรวมของการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกนาย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง หรือกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดูแลด้านการข่าว และการสืบสวนสอบสวน และยังคงเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ และเฝ้าระวังกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดี ซึ่งอาจก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป