'นายกฯ'เผยเตรียมพื้นที่รับผู้อพยพจาก'เมียนมา'แล้วแต่ไม่ถึงขั้นเป็นศูนย์อพยพ

'นายกฯ'เผยเตรียมพื้นที่รับผู้อพยพจาก'เมียนมา'แล้วแต่ไม่ถึงขั้นเป็นศูนย์อพยพ

"นายกฯ" เผย ฝ่ายความมั่นคง เตรียมพื้นที่รับมือ ผู้อพยพจากความไม่สงบใน "เมียนมา" แล้ว ปัดตอบจำนวนที่จะเข้ามา ยัน ยังไม่พูดถึง "ที่พักพิงผู้อพยพ-ศูนย์อพยพ" ปัด "ไทย" หนุน "ทหารเมียนมา"

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา จนส่งผลให้เกิดการแพยพเข้ามาในประเทศไทยว่า วันนี้เราก็ทราบถึงปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราก็มีการพิจารณาในเรื่องนี้อย่างไรก็ตามก็ขอให้เป็นเรื่องภายในของเราไปก่อนเพราะเราก็ไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่เราก็ดูแลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน อันนี้ก็ขอให้ระมัดระวังกันนิดนึง

ส่วนการส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 8ชาติ ขณะที่กองทัพนานาชาติ12 ชาติมหาอำนาจประณามกองทัพเมียนมานั้น นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นช่องทางทางการทหารที่เราจำเป็นต้องติดตาม วันนี้เราต้องหากลไกอะไรต่างๆที่เราสามารถจะติดตามได้ในเรื่องของการพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมา หรือแม้แต่ความรุนแรงอะไรต่างๆที่เกิดขึ้น เราเองก็เป็นประเทศที่มีดินแดนติดกัน ก็จะเห็นว่ามีผลกระทบด้ยกันทั้งหมด เมื่อมีการสู้รบก็มีการอพยพเราก็จะต้องเตรียมรับมือปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ตรงไหนอย่างไรเป็นเรื่องที่เราจะต้องพิจารณาในชั้นต้นของเราไปก่อน เมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขผู้อพยพจะมีจำนวนเท่าใดนั้น เราก็เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับเมื่อเข้ามาแล้วจะอยู่ตรงไหนก่อนจะมากหรือน้อยก็ว่ากันอีกที อย่าพูดไปถึงเรื่องการจัดที่พักพิงผู้อพยพ ศูนย์อพยพยังไม่พูดถึงตรงโน้น เป็นเรื่องของฝ่ายมั่นความมั่นคง เข้าเตรียมไว้อยู่แล้ว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การเมืองที่รุนแรงขึ้นนั้น รัฐบาลทราบดี ติดตามอยู่ทุกวันกระทรวงต่างประเทศก็รายงานมาตลอด รวมถึงฝ่ายความมั่นคงก็รายงานขึ้นมา ทั้งนี้ ที่มีการระบุว่า ไทยสนับสนุนทหารเมียนมา สนับสนุนตรงไหน ไม่เข้าใจ

"คงไม่มีใครไปสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนละมั้ง" นายกฯ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวอีกว่า "วันนี้มีการค้าขายกันปกติเราก็ต้องดูคนที่อยู่ในวงจรเหล่านี้ด้วย คนที่ได้รับประโยชน์ก็มีทั้งคนไทยและคนเมียนมาที่ต้องอยู่ต้องกิน สินค้าเขาก็มีความต้องการอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เราต้องดำเนินการควบคู่กันไปกับมาตรการของอาเซียนและประชาคมอื่นๆ ก็ระมัดระวังอย่างที่สุด"