3 แบงก์ใหญ่ มั่นใจสินเชื่อธุรกิจพุ่ง โครงการรัฐ-ลงทุนหลังโควิดฟื้น

     นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ ถือว่ายังมีดีมานด์การขอสินเชื่อเข้ามาต่อเนื่อง

     โดยเฉพาะธุรกิจรายใหญ่ ที่มีความต้องการสินเชื่อ เพื่อรองรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อภาคธุรกิจยังเติบโตอยู่ในระดับที่ดี

      อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจขนาดกลาง เอสเอ็มอี ก็เริ่มเห็นการฟื้นตัว กลับมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทั้งใช้ในการเยียวยาจากผลกระทบโควิด-19 ที่ผ่านมา และใช้สำหรับฟื้นฟูกิจการ หลังโควิด-19มีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ธุรกิจกลับมาเริ่มเดินหน้าธุรกิจมากขึ้น

     ดังนั้นสินเชื่อที่กลับมาฟื้นตัวในปี 2564 มากขึ้น จะมาจากผลบวกจากโครงการลงทุนภาครัฐ และการใช้สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูกิจการหลังโควิด-19เริ่มคลี่คลายมากขึ้น

     นอกจากนี้ ยังมีความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เกี่ยวกับการซื้อกิจการ M&A ต่อเนื่องในปี 2564 นี้ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและขอสินเชื่อของภาคธุรกิจ

     ดังนั้นคาดว่า การเติบโตสินเชื่อของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจรายใหญ่ปีนี้ มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หากเทียบกับที่ผ่านมา ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่ มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่กว่า 8 แสนล้านบาท

     “การขอสินเชื่อ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันก็มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายใหญ่ ที่มีความต้องการสินเชื่อ ทั้งใช้ในโครงการอินฟราซักเจอร์ของภาครัฐ โครงการลงทุนภาครัฐ และใช้ในดีล M&A ที่ยังมีต่อเนื่องในปีนี้ รวมถึงเงินทุนใหม่ๆที่ภาคธุรกิจจะขอเพิ่ม หลังโควิด-19 คลี่คลาย ดังนั้นเชื่อว่าสินเชื่อ ธุรกิจยังเติบโตได้ ส่วนใกล้เคียงกับสินเชื่อแบงก์ที่คาดโต 3-5% ก็ถือว่ายังเติบโตได้ในทิศทางเดียว นอกจากสินเชื่อแล้ว เราก็เชื่อว่า ในส่วนค่าธรรมเนียมในการให้บริการกับภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงตลาดทุนก็น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้ด้วย”

    ส่วนแนวโน้มเอ็นพีแอล หรือหนี้เสียของภาคธุรกิจ วันนี้รายใหญ่ไม่น่าห่วง เพราะรายใหญ่ ส่วนใหญ่แข็งแกร่ง ทำให้เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาปีก่อนเพิ่มขึ้นในสัดส่วนน้อย แม้จะมีบ้าง และก็ต้องติดตามพอร์ตรีเทลอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าหนี้เสียวันนี้ ถือว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว

สินเชื่อธุรกิจครึ่งหลังฟื้น

    นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า หากดูการปล่อยสินเชื่อของภาคธุรกิจในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว ผู้ประกอบการยังมีการชะลอการขอสินเชื่อ เนื่องจาก หลายธุรกิจยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ดังนั้นเชื่อว่าหลายธุรกิจยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

     ดังนั้นคาดการณ์ว่า จะเห็นการกลับมาฟื้นตัว และการกลับมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นชัดเจนได้ ราวครึ่งปีหลัง 2564 ปีนี้ เพื่อใช้ในการต่อยอด การฟื้นฟูธุรกิจ หลังโควิด-19คลี่คลาย และหลังจากวัคซีนเริ่มมีการกระจายมากขึ้น ที่เป็นปัจจัยที่หนุน ให้เกิดความมั่นใจของภาคธุรกิจ ประชาชนกลับมาได้

    แต่หากดูในส่วนของธุรกิจรายย่อย ถือว่ายังมีความต้องการสินเชื่อต่อเนื่อง แต่ก็มีการระมัดระวัง ขณะเดียวกันยอมรับว่า หนี้ในระบบเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีบางส่วนก่อหนี้เพิ่ม เพื่อลดความเดือนร้อนจากผลกระทบโควิด-19 ที่ผ่านมา

ส่วนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปีนี้ ธนาคารกรุงไทย ยังคาดการณ์การเติบโตสินเชื่อรวม อยู่ที่ระดับ 3-5% ได้ โดยเชื่อว่าตัวที่หนุนสินเชื่อให้เติบโตได้ คือสินเชื่อรายย่อย เพราะยังมีความต้องการสินเชื่อ เพื่อซื้อรถ ซื้อบ้าน เพิ่มขึ้น รวมถึงภาคธุรกิจที่จะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลังชัดเจนมากขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่าสินเชื่อน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งเป้าไว้

“การปล่อยสินเชื่อวันนี้ยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว โดยเฉพาะธุรกิจ เพราะการกลับมาฟื้นตัว ต้องอาศัยองคาพยพจากทุกส่วน และสถานการณ์โควิด-19 ที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา หลายธุรกิจก็ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากโควิดหลายภาคส่วน ในทุกขนาดธุรกิจ ดังนั้นเหล่านี้ก็ต้องใช้เวลา”

กรุงศรีคาดสินเชื่อธุรกิจปีนี้โตต่อ6%

    นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2564 นี้ ธนาคารยังคาดการณ์ว่า สินเชื่อธุรกิจของธนาคารน่ายังเติบโตในระดับแข็งแกร่งที่ระดับ 6% จากกลยุทธ์ของธนาคาร ที่ยังคงเป้าเป้าหมายในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ (Trusted banking partner)

     โดยผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ด้านแรกคือ การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ (Commercial Business Enhancement) ผ่านการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเสริมศักยภาพห่วงโซ่ธุรกิจ การประสานผลประโยชน์ร่วมกันของแต่ละกลุ่มลูกค้า ด้วยการใช้ศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกกลุ่มในห่วงโซ่ธุรกิจให้มากขึ้น

     ด้านที่สองคือการสร้างระบบนิเวศน์และพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ (Ecosystem and Partnership) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นได้อย่างครบวงจร และสุดท้ายคือ การขยายศักยภาพธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Expansion) เพื่อสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับลูกค้าธุรกิจไทยสู่ตลาดอาเซียน

    “ปีนี้กรุงศรียังคงเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ และเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกๆ สถานการณ์ ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง”