‘บี.กริม’คาดเศรษฐกิจปี 64 ฟื้นตัว ดันยอดใช้ไฟฟ้าพุ่ง

‘บี.กริม’คาดเศรษฐกิจปี 64 ฟื้นตัว ดันยอดใช้ไฟฟ้าพุ่ง

“บี.กริม”คาดยอดใช้ไฟทั้งปีพุ่ง 10-15% ตามเศรษฐกิจฟื้นชี้ไตรมาส 3 ปีนี้มีความชัดเจนดีลเพิ่มกำลังผลิตใหม่พร้อมนำเข้าแอลเอ็นจีช่วงครึ่งปีหลัง2.5 แสนตันป้อนโรงไฟฟ้า

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ "BGRIM" เปิดเผยว่า บริษัท คาดหวังยอดการใช้ไฟฟ้าทั้งปี2564 จะเติบโต 10-15% จากปีก่อนหลังจากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ยอดการใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้นแล้ว 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับบริษัทมีจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40 เมกะวัตต์ และทั้งปีนี้ ตั้งเป้าหมายจะมีกำลังผลิตจากลูกค้าใหม่ อยู่ที่ 76 เมกะวัตต์ ซึ่งจะหนุนผลการดำเนินงานของบริษัททั้งปีนี้ 161667123144

 

 

โดยปีนี้ยังคงเป้าหมายใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทน (SPP Replacement) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 5 โครงการๆ ละ 140 เมกะวัตต์โรงไฟฟ้า SPP อีก 2 โครงการการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่อีกประมาณ 1,000 เมกะวัตต์จากการเจรจาเข้าลงทุนโครงการSPP ในประเทศประมาณ 300-360 เมกะวัตต์ การเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในมาเลเซีย230-250 เมกะวัตต์ และส่วนขยายอีก150 เมกะวัตต์ รวมถึงการเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการ300-360 เมกะวัตต์คาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 3 ปีนี้

ส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) หลังจากที่ บี.กริม ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ(Shipper) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ปริมาณ 650,000 ตันต่อปี นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนแนวทางปรับโครงสร้างการแข่งขันในกิจการก๊าซฯเสรีซึ่งตามแผนเดิมในปีนี้ บี.กริม มีแผนจะนำเข้า LNG เฟสที่ 1 ปริมาณ 250,000 ตัน เพื่อมาป้อนเป็นเชื้อเพลิงใน 5 โรงไฟฟ้า SPP Replacement ที่มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) ในปี2565นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะยื่นเรื่องต่อกกพ. เพื่อขอขยายการนำเข้า LNG(เฟสที่2) เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟ้ฟาก๊าซฯและยังมีแผนจะนำเข้า LNG ในเฟสที่ 3 เพื่อมาป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าใหม่