BAY ตอกย้ำ การเป็นธนาคารพันธมิตร ชู 3 กลยุทธ์ หนุนลูกค้าธุรกิจ

BAY ตอกย้ำ การเป็นธนาคารพันธมิตร ชู 3 กลยุทธ์ หนุนลูกค้าธุรกิจ

กรุงศรี เผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ตั้งเป้าหมายในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ ตั้งเป้าสินเชื่อธุรกิจในปี 2564 เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6%

      นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2563 อันเป็นปีที่ท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

      กรุงศรียังคงอยู่เคียงข้างในฐานะพันธมิตรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบผ่านหลากหลายมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง

      อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การพักและชะลอการชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ SME เป็นต้น และแม้ในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและท้าทายอย่างมาก กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจยังเติบโตด้วยยอดสินเชื่อคงค้างกว่า 632,000 ล้านบาท และยอดเงินฝากกว่า 363,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อกรุงศรี”

    ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจกรุงศรีจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ

    1. การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ (Commercial Business Enhancement) ผ่านการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเสริมศักยภาพห่วงโซ่ธุรกิจ การประสานผลประโยชน์ร่วมกันของแต่ละกลุ่มลูกค้า ด้วยการใช้ศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกกลุ่มในห่วงโซ่ธุรกิจให้มากขึ้น

     2. การสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ (Ecosystem and Partnership) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นได้อย่างครบวงจร

     3. การขยายศักยภาพธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Expansion) เพื่อสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับลูกค้าธุรกิจไทยสู่ตลาดอาเซียน

    “ปีนี้กรุงศรียังคงเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ และเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME

     โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกๆ สถานการณ์ ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังให้ความสำคัญและสนับสนุนหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ ESG

     โดยเฉพาะเครื่องมือด้านการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ เช่น ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม เป็นต้น และการจัดหาสินเชื่อที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

     เช่น สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หรือ Sustainability-Linked Loan (SLL) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจไทย ด้วยการประสานพลังระหว่างความเชี่ยวชาญและเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เข้ากับจุดแข็งอันโดดเด่นของกรุงศรี

    นอกจากนี้ กรุงศรียังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับลูกค้าผ่านบริการ Krungsri Business Empowerment อย่างต่อเนื่อง

    โดยมุ่งแบ่งปันข้อมูลความรู้ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวพร้อมรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนไป

     โดยปีนี้ธนาคารยังคงเดินหน้าจัดซีรีส์สัมมนาออนไลน์ Krungsri Business Virtual Seminar หรือการจับคู่ธุรกิจทั้งในประเทศและในอาเซียนในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริง Krungsri Business Virtual Matching ให้สอดรับต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” นายพรสนอง กล่าวเสริม