BDMS - ซื้อ

BDMS - ซื้อ

โมเมนตั้มจะเริ่มเป็นบวกตั้งแต่ 2H64

Event

แนวโน้มธุรกิจปี 2564 และปรับประมาณการกำไรปี 2565

lmpact

ผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้วในปี 2563

เรายังคงมองว่าผลการดำเนินงานของ BDMS จะดีขึ้นจากการที่จำนวนผู้ป่ วยทั้งชาวไทยและต่างชาติฟื้นตัวขึ้นในกลาง 1Q64 หลังจากที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสองในประเทศไทย ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานใน 1Q64 จะแผ่วลง YoY เนื่องจากฐานที่สูงใน 1Q63 ซึ่งบริษัทมีกำไรปกติ 2.34 พันล้านบาท
(+28.9% YoY, +12.7 QoQ) (ก่อนเกิดโรคระบาด) เราคาดว่ารายได้ของ BDMS จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลาง 1Q64 เป็นต้นไป เนื่องจากปริมาณผู้ป่ วยจะฟื้นตัวขึ้น และบริษัทยังมีการจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 50 ปี บริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังชอบแพ็คเกจตรวจสุขภาพราคา 990 บาทของบริษัทซึ่งคาดว่าขายได้แล้วประมาณ 80,000 ชุด เราคิดว่าแคมเปญส่งเสริมการขายดังกล่าวจะทำให้มีผู้ป่ วยชาวไทยมาใช้บริการ BDMS เพิ่มขึ้นหลังการตรวจสุขภาพ และจะช่วยเพิ่มอัตรา utilization rate โดยรวม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50%ของ capacity ทั้งหมดใน 4Q63 ที่สำคัญ เราคาดว่ารายได้และ margin ของ BDMS จะเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติใน 1H64 ในขณะที่คาดว่ากลุ่มผู้ป่ วยต่างชาติที่บินเข้ามารับการรักษาจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2H64 เป็นต้นไป

BDMS จะได้อานิสงส์เต็มที่จากการที่ผู้ป่ วยต่างชาติบินกลับมาใช้บริการได้

การที่ COVD-19 กลับมาระบาดที่สมุทรสาครในปลายปี 2563 ทำให้มีโอกาสน้อยลงที่จะกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบในต้นปี 2563 แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดีขึ้นจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการคุมเข้มโดยขั้นต่อไปของการผ่อนคลายมาตรการจะเป็นการลดระยะเวลาบังคับกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้า
ประเทศจากเดิม 14 วันเหลือ 7-10 วันตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งหากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลงไปอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าน่าจะกลับมาเริ่มกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้ใน 3Q และ 4Q64 ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหมายของเราว่าจะเห็นจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่บินเข้ามาใช้บริการ
ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 4Q64F ซึ่งจากปัจจัยขับเคลื่อนตัวนี้ เราชอบ BDMS* จากแนวโน้มการฟื้นตัวเพราะมี platform ธุรกิจที่ดีสำหรับรองรับผู้ป่วยต่างชาติ

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นอีก 5.4%

ก่อนหน้านี้ เรามองแนวโน้มการฟื้นตัวของบริษัทในปี 2565F แบบอนุรักษ์นิยมมากเกินไป เราจึงปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 2565F เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1.8% เป็น 7.95 หมื่นล้านบาท (+11.9% YoY) และปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 31.5% (จากเดิม 31.0%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นจากเดิมอีก 5.4% เป็นกำไรปกติ 8.83 พันล้านบาท (+24.7% YoY) เพื่อสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการกลับมาเปิดประเทศสำเร็จใน 2H64

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 26.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0% และ TG ที่ 2.0%) จากเดิมที่ 26.30 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่, เกิดเหตุต่อการร้ายครั้งใหญ่