'ดาวโจนส์'ปิดบวก 103.23 จุด

'ดาวโจนส์'ปิดบวก 103.23 จุด

'ดาวโจนส์'ปิดบวก 103.23 จุด รับบอนด์ยีลด์ร่วง-หุ้นเทคโนฯพุ่งแรง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดวันจันทร์ (22 มี.ค.) ปรับตัวขึ้น 103.23 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงจากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 2.3% หลังจากบริษัท Ark Investment Management คาดการณ์ว่า ราคาหุ้นเทสลาจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,731.20 จุด เพิ่มขึ้น 103.23 จุด หรือ +0.32% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 3,940.59 จุด เพิ่มขึ้น 27.49 จุด หรือ +0.70% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,377.54 จุด เพิ่มขึ้น 162.31 จุด หรือ +1.23%

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.93% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงสู่ระดับ 1.679% จากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.83% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.45% หุ้นแอมะซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.17% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.18% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.13% หุ้นเอ็นวิเดีย พุ่งขึ้น 2.65%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.31% ปิดที่ระดับ 670 ดอลลาร์ หลังจากบริษัท Ark Investment Management ซึ่งบริหารโดยนางเคธี วูด คาดการณ์ว่า ราคาหุ้นของเทสลาจะพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Ark Investment ยังคาดการณ์ว่า เทสลาจะผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างเต็มรูปแบบภายในอีก 5 ปี

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ มีแผนที่จะผลักดันการใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.32% หุ้นอีตัน คอร์ป พุ่งขึ้น 1.21% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 0.97% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.37%

หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 4.04% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งพบว่า วัคซีนที่แอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 79% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ และมากถึง 100% ในการป้องกันอาการติดเชื้อรุนแรงหรือต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.26% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.69% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 1.23% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.67% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลบ 1.54%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นเออาร์) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยดิ่งลง 6.6% สู่ระดับ 6.22 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูง, สต็อกบ้านในระดับต่ำ, ราคาวัสดุสร้างบ้านที่พุ่งขึ้น รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -1.09 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.68 จากระดับ +0.75 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีเดือนก.พ.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของภาคการผลิต, ยอดขายบ้าน และการบริโภค

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กำไรภาคเอกชนไตรมาส 4/2563, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.พ., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (พีซีอี) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน