จ่อออกหมายจับ 'ม็อบรีเด็ม' เพิ่มเหตุผิดกฎหมายหนัก

จ่อออกหมายจับ 'ม็อบรีเด็ม' เพิ่มเหตุผิดกฎหมายหนัก

'รอง ผบช.น.' ยัน 'ม็อบรีเด็ม' ชุมนุมผิดกฎหมายหลายบท พร้อมเตรียมออกหมายจับเพิ่ม และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

22 มี.ค.2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มรีเด็ม เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า พบเจ้าหน้าที่ตำรวจแอดมิทโรงพยาบาล 11 นาย รักษาเสร็จ 50 นาย และ 1 นายกะโหลกร้าว ซึ่งน่าจะโดนกระแทกด้วยของแข็ง เพราะหมวกและโล่ของเจ้าหน้าที่ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสากล แต่แตกจำนวนหลายชิ้น

โดยจะเห็นว่าการชุมนุมกลุ่มรีเด็มในช่วงที่ผ่านมา พยายามสร้างเงื่อนไข มีพฤติกรรมรุนแรง ละเมิดกฎหมายหลายบท และเป็นอันตรายต่อสังคมส่วนร่วม และการสลายชุมนุมเป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมฝูงชน และการชุมนุมไม่ใช่ที่สาธารณะ เพราะมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ตำรวจยึดหลักกฎหมาย และเห็นเป็นคนไทยด้วยกัน โดยใช้มาตรการเบาที่สุดดำเนินการ และทุกครั้งเวลาชุมนุมเจ้าหน้าที่จะเตือนตลอด ว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตั้งแต่รวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเคลื่อนมายังสนามหลวง เจ้าหน้าที่ได้ตั้งแนวรั้งหน่วง เจรจา เป็นจังหวะ ตามเวลาสมควร ว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดสำคัญประเทศ ละเมิดมิได้

ทั้งนี้ นอกจากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนกฎหมายหลายบท ยังมีการใช้อาวุธต่างๆ ตั้งแต่ ก้อนหิน เหล็กแหลม ไม้ วัตถุระเบิด ซึ่งตอนเคลื่อนคอนเทนเนอร์ตู้สุดท้าย เจ้าหน้าที่ถูกระดมปาระเบิดนานาชนิด อาทิ ปิงปอง ไปป์บอม รวมถึงระเบิดเพลิง โดยน่าจะเป็นกลุ่มมีความรู้ทางด้านอาชีวะ

ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระสุนยาง เข้าควบคุมตัวผู้มีความเสี่ยงอันตราย กลุ่มการ์ด มวลชนใช้จักรยานยนต์ และผู้เดินเท้าบางส่วน เพราะก่อให้เกิดเพลิงไหม้หลายจุด สนามหลวง พระแม่ธรณีบีบมวยผม ถ.ราชดำเนิน และแยกคอกวัว ดังนั้น จึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ จงใจละเมิดกฎหมาย เพื่อให้เกิดความวุ่ยวายยบ้านเมือง และมีความผิดอาญา

พล.ต.ต.ปิยะ ย้ำว่า หากครั้งหน้าชุมนุมก็ยังจะเน้นบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก แม้เจ้าหน้าที่ถูกกระทำหลายมิติก็ตาม และไม่ว่าใครผิดอย่างไรต้องได้รับโทษเช่นนั้น เพราะเห็นแล้วว่าไม่ใช่การเรียกร้องใมนเรื่องขอการได้รับความเดือดร้อน หรือประชาธิปไตย แต่การชุมนุมดังกล่าวดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบ เนื่องเตรียมจุดเพลิง อาจไหม้สถานที่สำคัญหลายที่ได้

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์วันที่ 20 มี.ค. เจ้าหน้าที่ได้พยายามทำความเข้าใจ กรณีที่ตำรวจประกาศออกจากพื้นที่ ให้ประชาชน รวมถึงสื่อ ไม่เกี่ยวหลบหลังแนวตำรวจ แต่ก็เข้าใจสื่ออยากได้ภาพหรือออกไม่ทัน จนถูกลูกหลง ซึ่งวันนี้ ทางผบ.ตร.จะเข้าไปเยี่ยม เพราะอันตรายอาจไม่เกิดจากตำรวจ แต่อาจเกิดจากความโกลาหล ยิ่งด้วยภาวะชุลมุนเจ้าหน้าที่แยกไม่ทัน อาจโดนลูกหลงไปด้วย

ส่วนการจับกุมผู้ชุมนุม ได้ 20 คน โดยมีเยาวชน อายุ 15 กว่าด้วย ซึ่งความผิดถือว่ากระเทือนจิตใจประชาชนอย่างมาก เนื่องจากมีการทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ โดยจะสืบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ตามมาตรา 112 มาตรา 116 และมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสอง

สำหรับผู้ถูกจับกุมส่วนใหญ่นำตัวไปยัง ตชด. ภาค 1 จ.ปทุมธานี ส่วนเยาวชนได้ใช้สนธิสัญญาเจนีวา โดยมีพนักงานสอบสวนหญิง และผู้ปกครองเข้าร่วมด้วย ก่อนส่งศาลเด็ก และให้ประกันตัวเรียบร้อย และยืนยันออกหมายจับเพิ่มแน่นอน เพราะการชุมนุมครั้งกระทำผิดจำนวนมาก ทั้งแกนนำและกลุ่มการ์ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป