ธุรกิจบ้านจัดสรรในEEC ปี64ก่อนและหลังโควิด-19

ธุรกิจบ้านจัดสรรในEEC    ปี64ก่อนและหลังโควิด-19

สำหรับผลของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะทำให้ผู้ประกอบการทางธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไทย หรือต่างชาติ ขยายกิจการมาในภูมิภาคนี้

จากโครงการ EEC ทำให้มีชาวต่างชาติสนใจซื้อ หรือเช่าที่อยู่อาศัย (โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว หรือทาวเฮาส์) ในบริเวณนี้มากขึ้น เนื่องจากบริษัทจากต่างประเทศมาลงทุนใน EEC กันมากขึ้น และนายจ้าง หรือพนักงานต่างชาติ ที่เดินทางมาทำงานในประเทศไทย จึงต้องการที่อยู่อาศัย นี่ยังไม่รวมถึงชาวต่างชาติ ที่ต้องการใช้ชีวิตในวัยเกษียณในเขตนี้ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกกว่าในต่างประเทศ หรือในกรุงเทพฯ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่น่าอยู่ทั้งทะเล และภูเขา รวมถึงความสะดวกสบาย ในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเส้นทางที่จะมุ่งสู่สนามบิน และท่าเรือพาณิชย์ของประเทศ

เมื่อพิจารณารายจังหวัด ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยแนวราบมาก (เรียงตามมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์) อันดับ 1 ได้แก่ จังหวัดชลบุรี อันดับ 2 จังหวัดระยอง อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา 

สำหรับในปี 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีปัจจัยลบรุมเร้ามากกว่าปัจจัยบวก สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 กระทบกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในวงกว้าง แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยบวกในด้านอัตราดอกเบี้ยขาลง ราคาน้ำมันลดลง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่มีผลไปถึงสิ้นปี 2563 และมีการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ตาม

จากข้อมูลต่างๆ คาดการณ์ว่าในปี 2563-2564 ตลาดที่อยู่อาศัย จะมีการหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในด้านอุปทาน และอุปสงค์ โดยในด้านอุปทานการขออนุญาตจัดสรรที่ดินคาดว่าจะหดตัว 17.8% และการออกใบอนุญาตก่อสร้างคาดว่าจะหดตัว 15.3% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยอาคารชุดจะหดตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนในด้านอุปสงค์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจำนวนหน่วยจะหดตัว 11.9% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จะหดตัว 21.5%โอกาสที่มากกว่าความต้องการด้านอยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบดีว่า EEC คือ แหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ของนักลงทุนที่เกิดจากการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติ ที่จะเกิดการย้ายถิ่นฐานครั้งสำคัญ เพราะนักธุรกิจต่างนำพาครอบครัวเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ด้วย ดังนั้นการหดตัวดังกล่าวจึงเป็นการหดตัวของภาคอสังหาฯ ในภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของCOVID-19

ดังนั้นเมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ อสังหาฯ ใน EEC ก็จะยังคงเติบโตได้เป็นเลขสองหลักต่อไป ที่สำคัญจะเกิดเป็นธุรกิจใหม่ๆ จากการย้ายถิ่นฐานของภาคแรงงานครั้งสำคัญนี้อย่างมากมาย จนเกิดเป็นอุปสงค์ที่มากมายกว่าแค่ที่อยู่อาศัยเพราะคนเข้ามานอกจากการต้องการปัจจัยสี่ ยังต้องการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งอีกมาก ไม่เพียงแค่นั้นการเคลื่อนย้ายแรงงานขั้นสูงจากต่างประเทศที่หลังไหลเข้ามาพื้นที่ ซึ่งนักธุรกิจส่วนใหญ่นำครอบครัวย้ายเข้ามาด้วย นี่จึงเป็นโอกาสของการเติบโตของธุรกิจพื้นฐานในทุกรูปแบบ อาทิ การเดินทาง ค้าปลีก บริการ ความบันเทิง สุขภาพ ความงาม แม้แต่ธุรกิจด้านการศึกษา ซึ่งจะเป็นโอกาสจากการขยายของเมือง และความต้องการของประชากรในพื้นที่

เรื่องนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเตรียมการตั้งรับไว้ได้ เพราะหากมองอนาคต ยกตัวอย่าง ‘ศรีราชา’ หรือกระทัjง ‘พัทยา’ ผู้ประกอบการจะมองภาพ EEC ที่ไม่จำกัดแค่การลงทุนจากต่างชาติ เพียงอย่างเดียวแน่นอน