'กองทัพภาคที่ 3' ส่งทีมลาดตระเวน 6 ชุด เร่งดับไฟป่า 'ดอยสุเทพ'

รองแม่ทัพภาคที่ 3 จัดชุดลาดตระเวนดับไฟป่า 6 ชุด เร่งดับไฟป่าในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ "ดอยสุเทพ-ปุย" ส่งผลให้ค่าฝุ่นและหมอกควันในตัวเมืองเชียงใหม่ขยับสูงขึ้นอีกครั้ง

กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จัดชุดลาดตระเวน 6 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่าไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บูรณาการลาดตระเวนป้องปรามป้องกันการเผาป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

161613345667

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 19 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน สภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยกรมควบคุมมลพิษ ที่สถานีวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สามารถวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 วัดได้ที่ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าสูงขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ที่วัดได้ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ยังจัดอยู่ในโซนสีส้มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุเกิดจากได้มีเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ป่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สำหรับสภาพบรรยากาศโดยรอบยังคงมีหมอกควันปกคลุม ประชาชนยังคงสวมใส่หน้ากากป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองขนาดเล็ก

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จัดชุดลาดตระเวน 6 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่าไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ห้วงวันที่ 20 - 23 มีนาคม 2564 เพื่อบูรณาการลาดตระเวนป้องปรามป้องกันการเผาป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

สำหรับการจัดกำลังในครั้งนี้ ประกอบด้วยกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าศูนย์ขอนแก่น ,กรมรบพิเศษที่ 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าศูนย์ฉะเชิงเทรา/ศูนย์กาญจนบุรี , กำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าศูนย์อุบลราชธานี/ศูนย์ชุมพร

ส่วนกำลังทหารจากกองพันพัฒนาที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าศูนย์สกลนคร และกำลังทหารจากกองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าศูนย์นครราชสีมา สำหรับกำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ลงพื้นที่ ต.เมืองนะ, ต.เมืองงาย, ต.แม่แมะ, ต.ทุ่งข้าวพวง, และ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว

ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือมีค่า PM 2.5 ระหว่าง 44-210 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 70-276 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI ระหว่าง 76-320 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และได้ทำการตรวจสอบสาเหตุพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานพบว่า การจุดไฟหาของป่า การเผาเศษวัชพืช และการเผาเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร ประกอบกับในระยะนี้ภาคเหนือลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และอากาศไม่สามารถลอยตัวได้ดี ทำให้การระบายของอากาศมีน้อย จึงทำให้มีการสะสมของฝุ่นละอองมาก บางพื้นที่

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัด สรุปจำนวนจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ประจำวันนี้มีจำนวน 139 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 94 จุด พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 36 จุด และพื้นที่การเกษตร 9 จุด