เมเจอร์ฯเล็งเปิด 5 โครงการรับตลาดอสังหาฯฟื้นตัว

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประเมินตลาดอสังหาปี 64 เริ่มฟื้นตัว ตั้งเป้ารายได้ 8 พันล้านบาท เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 1.13 หมื่นล้าน ปักหมุด 5 ปี ปรับพอร์ตสู่ธุรกิจใหม่

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ ระบุ คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะเริ่มทยอยฟื้นตัว แม้จะยังไม่ดีขึ้นมาก เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวและขับเคลื่อนได้ หลังจากมีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลก โดยในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าสร้างยอดขายได้ทั้งสิ้น 7,500 ล้านบาท และสร้างรายได้รวม 8,000 ล้านบาท โดยภายในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาท และคอนโดมีเนียม 3 โครงการ มูลค่า 7,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาวะกดดันทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบภายในประเทศและทั่วโลก ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง และยังมีความกังวลการแพร่ระบาดของโรคและการล็อคดาวน์ มีผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัวลง บริษัทได้ปรับตัวรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเพิ่มช่องทางการตลาด ขายผ่านออนไลน์ และจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการ จึงสามารถระบายสินค้าได้ตามเป้าหมาย สามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยได้ 8 โครงการในปี 2563 และสามารถรักษายอดขายและสร้างกำไรสุทธิรวม 199.34 ล้านบาท มีรายได้  7,444 ล้านบาท เติบโต 22.36% จากปี 2562 โดยมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นปี 2563 ทั้งหมด 6,400 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายการปรับตัวระยะ 5 ปี (2564-2568) เพื่อสร้างรากฐานความแข็งแกร่งเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยการเพิ่มพอร์ตสินค้าแนวราบ ปรับสัดส่วนการพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบให้กลายเป็น 75:25 พร้อมกระจายพอร์ตธุรกิจ ทยอยกระจายรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ให้มีสัดส่วน 80:20 ในปี 2568 โดยเน้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับภูมิทัศน์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค

คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มบุกธุรกิจใหม่ในด้านสุขภาพ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย และด้านเทคโนโลยี นำร่องด้วยเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropTech), ด้านสุขภาพ (HealthTech) และด้านการเงิน (FinTech) คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของธุรกิจอย่างชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 4/2564